ผลของการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้น โดยใช้เกมและการแสดงบทบาทสมมุติ เรื่อง ระบบสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้าทางการเรียนระหว่างเพศหญิงและเพศชาย 3) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องระบบสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ค่าดัชนีประสิทธิผลไม่ต่ำกว่า 0.50 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้น เรื่องระบบสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 24 คน ขั้นตอนการวิจัยประกอบด้วย การทดสอบก่อนเรียนการจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมวิทยาศาสตร์และการแสดงบทบาทสมมติ เรื่อง ระบบสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ ที่มีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้น รวมเวลา 12 ชั่วโมง และการทดสอบหลังเรียน ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดการเรียนรู้แบบ 5 ขั้น โดยใช้เกมและการแสดงบทบาทสมมติ สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนได้ ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 32.08 (±3.24) สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน 14.38 (±3.09) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความก้าวเหน้าทางการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง (=0.69) นักเรียนหญิงและนักเรียนชายมีความก้าวหน้าทางการเรียนไม่แตกต่างกัน 3) ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ E1/E2 เท่ากับ 81.31/80.42 ซึ่งเท่ากับเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ (80/80) ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.69 และ 4) การวิเคราะห์ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมและการแสดงบทบาทสมมติ เรื่อง ระบบสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของสัตว์ รายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมในระดับมากที่สุด