ประสิทธิภาพการกำจัดเฮกซะวาเลนท์โครเมียมจากน้ำเสียสังเคราะห์ร่วมกับสารอินทรีย์ธรรมชาติด้วยเยื่อกรองนาโน

Titleประสิทธิภาพการกำจัดเฮกซะวาเลนท์โครเมียมจากน้ำเสียสังเคราะห์ร่วมกับสารอินทรีย์ธรรมชาติด้วยเยื่อกรองนาโน
Publication Typeวิทยานิพนธ์/Thesis
Year of Publication2560
Authorsจตุพล จัยสิน
Degreeวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต -- สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
Institutionคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
Cityอุบลราชธานี
Call NumberTD จ136 2560
Keywordsการกรองน้ำ, การกำจัดเฮกซะวาเลนท์โครเมียม, การบำบัดน้ำเสีย, น้ำ -- การทำให้บริสุทธิ์ -- การกรอง, น้ำเสีย -- การบำบัด, เครื่องกรองและการกรอง, เยื่อกรองนาโน, โครเมียม -- การบำบัด
Abstract

การค้นคว้าอิสระนี้เป็นการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการกําจัดเฮกซะวาเลนท์โครเมียมจากน้ำเสียสังเคราะห์ร่วมกับสารอินทรีย์ธรรมชาติ โดยใช้ชุดทดลองแบบไหลตายตัวเยื่อกรองแบบนาโนภายใต้ สภาวะที่ควบคุมปัจจัยที่แตกต่างได้แก่ ความเข้มข้นของเฮกซะวาเลนท์โครเมียมจากน้ำเสียสังเคราะห์ ความเข้มข้นของสารอินทรีย์ธรรมชาติ ค่าพีเอชสารละลาย ความเร็วรอบการกวนผสม และความดันในระบบ จากการศึกษาพบว่าการเพิ่มความเข้มข้นของเฮกซะวาเลนท์โครเมียมจากน้ำเสียสังเคราะห์เป็นสาเหตุทําให้เกิดการอุดตันบนผิวของเยื่อกรองแบบนาโนมากขึ้น ส่งผลให้ค่าการลดลงของฟลักซ์เพิ่มขึ้น และค่าการกําจัดโครเมียมลดลง สารเฮกซะวาเลนท์โครเมียมจากน้ำเสียสังเคราะห์ที่มีสารอินทรีย์ธรรมชาติ แสดงการลดลงของฟลักซ์สูงกว่าฟลักซ์สารละลายที่ไม่มีสารอินทรีย์ธรรมชาติ การเพิ่มพีเอชสารละลาย จาก 3 ถึง 10 สูงผลทําให้การลดลงของฟลักซ์และการกําจัดเฮกซะวาเลนท์โครเมียมสูงขึ้น การเพิ่มความเร็วรอบการกวนผสมจาก 0 ถึง 400 รอบต่อนาที ทําให้การลดลงของค่าฟลักซ์สารละลายลดลง เนื่องจากลดการสะสมของอนุภาคบนผิวเยื่อกรองแบบนาโน การเพิ่มความดันในระบบส่งผลให้การกําจัดเฮกซะวาเลนท์โครเมียมลดลง ประกอบกับความดันในระบบที่สูงขึ้นส่งผลให้เฮกซะวาเลนท์โครเมียมผ่านเยื่อกรองมากขึ้น ความเข้มข้นของสารอินทรีย์ธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นทําให้ประสิทธิภาพการกําจัดเฮกซะวาเลนท์ โครเมียมเพิ่มขึ้น อาจเป็นผลเนื่องจากการรวมตัวระหว่างสารอินทรีย์ธรรมชาติกับเฮกซะวาเลนท์โครเมียมที่ถูกแยกจากผิวของเยื่อกรองแบบนาโน

Title Alternate Efficiency of hexavalent chromium removal from synthetic wastewater and natural organic matter by nanofiltration membrane
Fulltext: