การใช้การสอนแบบปฏิบัติจริงเพื่อพัฒนาความเข้าใจเรื่องรูปร่างโมเลกุล ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4

การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมี เรื่องรูปร่างโมเลกุล พัฒนากระบวนการคิดและทักษะการเรียนรู้พื้นฐาน 3 ด้าน คือ ทักษะการสังเกต การวิเคราะห์ และการคิดอย่างมีเหตุผล สร้างแผนการจัดการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริงเรื่องรูปร่างโมเลกุลให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้วิชาเคมี เรื่อง รูปร่างโมเลกุล โดยใช้การสอนแบบปฏิบัติจริง แบบแผนการวิจัยที่ใช้คือ การทดลองแบบกลุ่มเดียวสอบก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบเน้นปฏิบัติจริง เรื่องรูปร่างโมเลกุล แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติโดยหาค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และการทดสอบค่าทีกรณีกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระต่อกัน ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เท่ากับ 85.05/80.11 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ นักเรียนมีกระบวนการคิดและทักษะการเรียนรู้พื้นฐาน 3 ด้าน คือ ทักษะการสังเกต การวิเคราะห์และการคิดอย่างมีเหตุผล เป็นร้อยละ 77.65 80.87 และ 81.25 ตามลำดับ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริงอยู่ในระดับมาก