การรับรู้ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรและส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อความจงรักภักดีของหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

องค์กรธุรกิจที่เป็นเสาค้ำและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเกือบทั้งหมดเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (SMEs) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิสาหกิจรายย่อย ธุรกิจหอพักนับเป็นวิสาหกิจรายย่อยประเภทกิจการบริการชนิดหนึ่ง ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่บริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงของธุรกิจหอพักกอรปกับกระแสสังคมที่ให้ความสำคัญการนำหลักแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรเข้มาเป็นองค์ประกอบการธุรกิจ การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร และส่วนประสมทางการตลาดบริการที่มีผลต่อความจงรักภักดีของผู้ใช้บริการหอพักเอกชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โดยรอบมหาวิทยาอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่เช่าและอาศัยในหอพักเอกชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โดยรอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำนวน 374 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วย Independent t-test, One Way ANOVA ทดสอบสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และสถิติการวิเคราะห์เชิงถดถอยพหุฐาน
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 4 ศึกษาในคณะบริหารศาสตร์ มีรายรับต่อเดือนต่ำกว่า 5000 บาท เช่าและอาศัยอยู่ในหอพักปัจจุบันเป็นเวลา 1 ปี และเคยมีประสบการณ์ในการอาศัยในหอพักที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่โดยรอบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ระดับการรับรู้ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ระดับความคิดเห็นของส่วนประสมทางการตลาดบริการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยส่วนบุคคล อาทิ เพศ ชั้นปีการศึกษา คณะวิชาที่สังกัดและรายรับต่อเดือน ที่แตกต่างกันมีผลต่อความจงรักภักดีของหอพักมากที่สุด คือ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและการประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรมตามลำดับ และส่วนประสมทางการตลาดมีอิทธิพลต่อความจงรักภักดีของหอพักเพียง 1 ด้าน คือ ด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพเท่านั้น