วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่สร้างเลียบคูคันเมือง เป็นหนึ่งในห้าวัดที่สังกัดนิกายธรรมยุติของจังหวัดอุบลราชธานี อดีตนั้นเคยเป็นสำนักสงฆ์สายวิปัสสนา เคยถูกปล่อยให้เป็นวัดร้างจนพระครูวิเวกพุทธกิจ(หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ได้มาบุกเบิกบูรณะวัดขึ้นใหม่ ทำให้วัดเลียบเป็นแหล่งประสิทธิประสาทวิชาความรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่ง เป็นต้นธารแห่งการปฏิบัติธรรมสายวิปัสนากรรมฐาน โดยมีพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) เป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระอาจารย์ มีลูกศิษย์สำคัญ ได้แก่ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิยเถร) พระเทพสุทธาจารย์ (คุณสัมปันโนโชติ) พระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ภายในวัดมีพระพุทธจอมเมือง ที่ปั้นโดยพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) และเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ
![ซุ้มประตูวัดเลียบ อุบลราชธานี](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/door6-1024x685.jpg)
ประวัติวัดเลียบ อุบลราชธานี
วัดเลียบ เป็น 1 ใน 5 ของวัดธรรมยุตินิกาย เป็นสถานศึกษา และเป็นแหล่งประสิทธิประสาทวิชาความรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะยุคต้นของการสร้างวัดเลียบที่มีพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) เป็นเจ้าอาวาสและเป็นผู้ฝึกอบรมการปฏิบัติธรรมในสายวิปัสสนากรรมฐาน ต่อมายังมีลูกศิษย์ที่มาอบรมศึกษากับพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) อีกจำนวนมากและได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักปราชญ์ในเวลาต่อมา เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิยเถร) พระเทพสุทธาจารย์ (คุณสัมปันโนโชติ) พระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ฯลฯ
![รูปปั้นหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระธรรมธรมาโนช โชติโก](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/monk.jpg)
วัดเลียบเดิมเป็นสำนักสงฆ์สายวิปัสสนา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2391 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่มาของชื่อวัดนั้นสันนิษฐานไว้ว่า น่าจะเป็นการสร้างวัดเลียบคันคูเมือง บางท่านสันนิษฐานว่า น่าจะมาจาก กิริยาอาการเดินริมขอบของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) สำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งขึ้นมาได้ 44 ปี มีเจ้าอาวาส 10 รูป จนถึงยุคท่านพระอาจารย์ทิพย์เสนา ทิพฺพเสน (แท่นทิพย์) เมื่อท่านมรณภาพลงก็ไม่มีพระสงฆ์รูปใดครองสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่อ เป็นเหตุให้ต้องร้างไปเป็นเวลาเกือบปี
ต่อมาพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ได้มาบุกเบิกสร้างวัดเลียบขึ้นอีกครั้งเป็นวัดในสังกัดธรรมยุตินิกายและมาเป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. 2435 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยมีญาติโยม ทายกทายิกาและผู้ศรัทธาช่วยกันปฏิสังขรณ์วัดและขยายพื้นที่ออกไปและขอพระราชทานวิสุงคามสีมา
ปี พ.ศ. 2434 พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ได้ทำการปั้น “พระพุทธจอมเมือง” ขึ้น พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 1.99 เมตร สูง 2.99 เมตร ประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ (หอแจก)
![พระอุโบสถ วัดเลียบ](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/boht4.jpg)
ปี พ.ศ. 2435 ได้ทำการก่อสร้างอุโบสถ (สิมไม้) ซึ่งเป็นอุโบสถไม้ หลังคามุงสังกะสี มีเฉลียงโดยรอบ
ปี พ.ศ. 2436-2437 ได้ทำการแกะสลักพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปไม้ปางสมาธิ ศิลปะรัตนโกสินทร์อิทธิพลลาว ประดิษฐานเป็นพระประธานในสิมไม้ และในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้แกะสลักพระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย ศิลปะรัตนโกสินทร์อิทธิพลลาวด้วยอีกองค์หนึ่ง
วัดเลียบได้รับการพัฒนา โดยการนำของเจ้าอาวาสรูปต่อ ๆ มาโดยลำดับ จนกระทั่งปี 2506 สิมไม้ที่พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล)ได้สร้างไว้ชำรุดทรุดโทรมมากจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ พระโพธิญาณมุนี (สุธีร์ ภัททิโย) เจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงได้รื้อถอนลง และสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นทดแทน ด้วยทุนทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสร้าง และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธจอมเมืองที่พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ได้ทำการปั้นไว้
![พระพุทธจอมเมือง พระประธานในพระอุโบสถ วัดเลียบ](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/Screen-shot-2015-05-27-at-9.46.14-AM.png)
วัดเลียบได้มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษาสืบต่อกันมา เป็นวัดฝ่ายธรรมยุติที่สืบทอดเจตนารมณ์ของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) สืบต่อกันมาจนตราบปัจจุบัน
เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล) และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดเลียบ อุบลราชธานี
พระวีระชัย อริญฺชโย หรือ พระครูอุบลคณาภรณ์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเลียบ สืบต่อจากอดีตเจ้าอาวาสรูปก่อนที่มรณภาพ เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2542 ในขณะที่ท่านอายุได้ 25 ปี พรรษา 5 นับตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้วพระครูอุบลคณาภรณ์ได้มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) และ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากคำบอกเล่าที่ได้รับฟังจากเจ้าอาวาสรูปก่อน ๆ และหนังสือที่บันทึกถึงวัตรปฏิบัติปฏิปทาของหลวงปู่ทั้งสอง และหลวงปู่ทั้งสองต่างก็มีประวัติเกี่ยวพันกับวัดเลียบ จึงทำให้เจ้าอาวาสหนุ่มมีความคิดที่จะสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนถวายองค์หลวงปู่ทั้งสอง ให้เป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัด เพื่อให้ญาติโยมที่เข้ามาในวัดเลียบได้รำลึกถึงธรรมะของพระพุทธองค์ที่ท่านได้น้อมนำมาสั่งสอน เจดีย์ทั้งสองชื่อว่า เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) และเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ
![เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) และเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/jd1-1024x685.jpg)
การสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) วัดเลียบ
การก่อสร้างรูปเหมือนพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ในระยะแรกนั้น พระครูอุบลคณาภรณ์ได้ปรึกษาหารือกับญาติโยมจนมีมติร่วมกันว่า จะสร้างรูปเหมือนท่านในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดเลียบขึ้นมา เพื่อให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชา และศึกษาเรียนรู้ประวัติของท่าน ตลอดจนนำเอาวัตรปฏิบัติที่ดีงามมาใช้ในการดำรงชีวิต
ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อใช้ในการก่อสร้างจำนวนกว่า 80,000 บาท ลักษณะเป็นองค์ทองเหลือง เมื่อสร้างเสร็จก็นำไปประดิษฐานไว้ในอุโบสถร่วมกับอัฐิธาตุของท่าน ต่อมามีผู้ศรัทธาได้สร้างรูปเคารพพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) องค์ใหม่ขึ้น เป็นหุ่นขี้ผึ้ง รูปหล่อพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ที่เป็นองค์ทองเหลืองได้ถูกนำไปถวายให้กับวัดบ้านข่าโคม ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของหลวงปู่ เมื่อเวลาผ่านไปรูปหุ่นขี้ผึ้งพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ที่สร้างถวายก็ชำรุด จนต้องนำไปซ่อมแซมซึ่งก็พอดีกับที่มีผู้มีจิตศรัทธาได้สร้างหุ่นขี้ผึ้งพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) องค์ใหม่มาถวาย จึงได้นำหุ่นขี้ผึ้งนั้นมาประดิษฐานในเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นใหม่แทนชั่วคราว
ความคิด ความตั้งใจ สัจจอธิษฐานที่จะสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานของพระครูอุบลคณาภรณ์ เป็นจริงขึ้นมาได้ เมื่อคุณไพศาล คุนผลิน ตกลงเป็นเจ้าภาพทอดกฐินเพื่อหาทุนทรัพย์สร้าง และทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี จนวันที่ 2 พฤศจิกายน 2545 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของหพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) จึงได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ และทอดกฐิน ดำเนินก่อสร้างสำเร็จและสมโภชเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547
เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ที่พระครูอุบลคณาภรณ์ออกแบบนั้น เป็นเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานสี่เหลี่ยมย่อมุม ผนังอาคารเป็นรูปดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี คันทวยปั้นเป็นรูปไก่ ซึ่งเป็นปีเกิดของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) คือ ปีระกา หน้าบันแต่ละด้านบอกเรื่องราวของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ส่วนยอดเป็นยอดแปดเหลี่ยม ปลียอดเป็นกลีบ 3 ชั้น เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของพระครูอุบลคณาภรณ์ เพราะถือว่าได้ทำงานบูชาเทิดทูนพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ภายในวิหารนอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) แล้ว ยังได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดเก็บอัฐิธาตุของหลวงปู่ และแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของหลวงปู่อีกด้วย
![เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล)](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/jd-saow.jpg)
การสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดเลียบ
การสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งก็อยู่ในความคิดและความตั้งใจของพระครูอุบลคณาภรณ์เหมือนกัน จนปี พ.ศ. 2552 พระครูได้พบกับคุณเกศนี จิรวัฒน์วงศ์ ซึ่งเป็นชาวอุบลราชธานีและมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา และวัตรปฏิบัติปฏิปทาในหลวงปู่มั่น มีความคิดอยากจะสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เช่นกันกับพระครู จึงได้ขอโอกาสได้ทำบุญนี้ได้สร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานถวาย
การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้น โดยกำหนดให้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 ซึ่งตรงกับขึ้น 9 ค่ำ เดือน10 การก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยบารมีของหลวงปู่มั่น โดยแท้
การสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นั้นรูปแบบจะคล้ายกับเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) โดยตั้งอยู่เคียงข้างกัน แต่จะมีความสูงไม่เท่ากัน เนื่องจากเล็งเห็นว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตนั้นเป็นศิษย์ของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ความสูงของเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานจึงไม่ควรสูงเกินกว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เจดีย์นี้ได้ถูกออกแบบ โดย พระครูอุบลคณาภรณ์เช่นกัน สร้างเป็นจัตุรมุข 4 ด้าน ผนังวิหารโดยรอบปั้นเป็นบัว 4 เหล่า ยอดเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานทำเป็นพระธาตุพนม ซี่งเป็นบริเวณที่หลวงปู่มั่นเคยไปจำพรรษา สูงจากฐานถึงยอดฉัตร 13 เมตร หน้าบันทั้ง 4 ด้าน บอกเรื่องราวของหลวงปู่มั่น
![เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานและรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/jd-mun.png)
ในระหว่างการสร้างเจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต งานรูปเหมือนหลวงปู่มั่นก็ดำเนินการควบคู่ไปด้วย โดยมีอาจารย์เดชา สายสมบูรณ์ เป็นปฏิมากร เป็นรูปเหมือนในช่วงที่หลวงปู่มั่นอายุประมาณ 60-70 ปี ในท่านั่งขัดสมาธิ คิ้วสายตาดูมุ่งมั่น หน้ามองตรง ท่านั่งดูเคร่งขรึม บ่งบอกถึงความเป็นผู้บำเพ็ญเพียรแก่กล้า ทางวัดได้จัดพิธีเททองหล่อรูปสำริดในวันที่ 20 มกราคม 2552 โดยมีพระมงคลกิตติธาดา เป็นองค์ประธาน และอัญเชิญรูปหล่อหลวงปู่มั่นมาที่วัดเลียบในวันที่ 23 มีนาคม 2553
รูปหล่อสำริดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตนั้น มีความงดงามนัก คุณเกศนี จิรวัฒน์วงศ์ จึงเกิดแรงศรัทธาขอสร้างรูปหล่อสำริดของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ด้วย เพราะคิดว่ารูปเคารพพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ในวิหารเป็นหุ่นขี้ผึ้ง ส่วนรูปเคารพหลวงปู่มั่นในวิหารเป็นสำริดอาจจะไม่เหมาะสม เพราะหลวงปู่มั่นเป็นลูกศิษย์ เมื่อได้ปรึกษากับท่านเจ้าอาวาส ก็ได้อัญเชิญหุ่นขี้ผึ้งของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) นั้นไปประดิษฐานไว้ที่หอไตรพิพิธภัณฑ์ ร่วมกับตู้พระไตรปิฎก และพระพุทธรูปที่พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) แกะสลัก ตามความประสงค์ของเจ้าภาพ และได้มอบหมายให้อาจารย์เดชา สายสมบูรณ์ เป็นผู้ปั้นงานต้นแบบพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) ซึ่งใช้วิธีเดียวกับการทำงานต้นแบบหลวงปู่มั่น มีพิธีเททองหล่อเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2553 และจะอัญเชิญประดิษฐาน ณ เจดีย์วิหารอนุสรณ์สถานพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล)
ภายในวิหารก็ได้จัดพิพิธภัณฑ์จัดเก็บอัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของหลวงปู่ด้วยเช่นกัน
![อัฐิธาตุของพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล) และหลวงปู่มั่นภูริทัตโต](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/taht.jpg)
![พระพุทธรูปที่จัดแสดงในเจดีย์ของหลวงปู่ทั้งสอง](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/museum1.jpg)
การสร้างเจดีย์อนุสรณ์สถานและรูปหล่อพระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล) และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นการบ่งชี้ให้เห็นคุณค่าแห่งความดี น้อมระลึกถึงปฏิปทาแห่งการปฏิบัติ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติตามรอยองค์ท่านสืบไป และเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงไว้ว่า อดีตมีพระอรหันต์ได้มาบำเพ็ญเพียรสมณธรรม ณ สถานที่แห่งนี้
เสาพระเจ้าอโศก วัดเลียบ
มูลเหตุของการสร้างเสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศกมหาราชในครั้งนี้ เกิดจากการเดินทางไปประเทศอินเดียของคุณสุขวิช-คุณผิวผ่อง รังสิตพล จึงได้ทราบว่าเสาพระเจ้าอโศกนี้มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในยุคนี้มาก เพราะเมื่อพระพุทธศาสนาได้หายไปจากประเทศอินเดียนานถึง 700 ปี เมื่อจะฟื้นฟูก็อาศัยเสาศิลาของพระเจ้าอโศกมหาราชนี้เป็นเครื่องบ่งชี้จุดต่าง ๆ เสาพระเจ้าอโศกนี้มีอายุกว่า 2000 ปีมาแล้ว หากไม่มีเสาพระเจ้าอโศกมหาราชบอกไว้ ก็ยากที่ใครจะบอกว่าสถานที่แห่งนั้น ๆ คืออะไร พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 ได้แนะนำให้คุณสุขวิชสร้างกุศลด้วยการสร้าง “เสาอโศก” ตามอย่าง พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์อินเดีย ที่เปลี่ยนมาถือพุทธศาสนา ได้สร้างเสาอโศกปักไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ 84,000 ต้น เพื่อประกาศว่า ที่ใดมีเสาอโศกปักอยู่ ที่นั่นคือสถานที่ที่พระพุทธศาสนาเผยแผ่มาถึงแล้ว
![เสาพระเจ้าอโศก วัดเลียบ](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/asoka.jpg)
อีกประการหนึ่ง ด้วยดวงใจแห่งความจงรักภักดีที่มีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นพุทธมามะกะและอัครศาสนูปถัมภก ทรงมีบุญญาธิการดั่งพระเจ้าอโศกมหาราช จึงสมควรเฉลิมพระเกียรติให้ปรากฏอยู่ในแผ่นดินนี้ไปอีกตราบนานเท่านาน
ด้วยความเคารพบูชาเทิดทูนที่มีต่อองค์พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล) พระมหาเถระรูปสำคัญซึ่งถือกำเนิดที่จังหวัดอุบลราชธานี มีข้อวัตรปฏิบัติอันงดงามเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกในฐานะแม่ทัพธรรมพระกัมมัฏฐาน และมีศิษย์อันลือชื่อ คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มาถวายตัวเป็นศิษย์ ณ สถานที่แห่งนี้ จึงควรจารึกคุณงามความดีลงในเสาศิลาจารึกไว้ ณ วัดเลียบ อันเป็นสถานที่พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล) เคยเป็นเจ้าอาวาส เพื่อประกาศชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านทั้งสองให้ปรากฏในดินแดนพุทธแห่งนี้ และเป็นแบบอย่างแก่อนุชนคนไทยให้ชื่นชมบูชาและปฏิบัติตามต่อไป
![หอพระไตรเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา วัดเลียบ](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/tri.jpg)
![บ่อน้ำในวัดเลียบ](http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/esaninfo/wp-content/uploads/2015/05/bornam-769x1024.jpg)
ที่ตั้ง วัดเลียบ
เลขที่ 116 ถนนเขื่อนธานี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัดภูมิศาสตร์ วัดเลียบ
15.228674, 104.866173
บรรณานุกรม
วัดเลียบ อุบลราชธานี อารามแห่งบูรพาจารย์. (2554). อุบลราชธานี: วัดเลียบ.