วัดราษฎร์ประดิษฐ์ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิลาย ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมศิลปะแบบช่างญวนและพื้นถิ่นอีสาน ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน วัดนี้เป็นวัดที่ชาวบ้านกระเดียนร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างขึ้นโดยใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น อิฐที่เผาจากดินดิบในหมู่บ้าน
ประวัติวัดราษฎร์ประดิษฐ์ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี
วัดราษฎร์ประดิษฐ์ หรือวัดบ้านกระเดียน มีเนื้อที่ทั้งหมด 14 ไร่ ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2370 เป็นวัดที่ชาวบ้านกระเดียนร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างด้วยแรงงานชาวบ้าน โดยใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น อิฐที่ใช้เป็นอิฐที่เผาจากดินดิบในหมู่บ้าน มีโบราณสถานที่สำคัญ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิลาย มีโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น พระพุทธรูปประจำพระอุโบสถ พระพุทธรูปแกะจากไม้ ธรรมมาสไม้ หีบไม้เก็บตำรา เป็นต้น วัดราษฎร์ประดิษฐ์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2470 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 11.50 เมตร ยาว 16.50 เมตร เป็นวัดที่ชาวบ้านกระเดียนใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาเป็นเวลานานตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน วัดราษฎร์ประดิษฐ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราญสถานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2544 จากกรมศิลปากร
ลำดับรายชื่อเจ้าอาวาส รูปที่ 1 หลวงปู่ผู๋ รูปที่ 2 ญาท่านพัน รูปที่ 3 ญาท่านลี อุตตโร (พระครูพนาภินันท์) รูปที่ 4 หลวงพ่อเทียม รูปที่ 5 พระประสาน อติสาโร รูปที่ 6 พระประยุทธ ถาวโร รูปที่ 7 หลวงปู่แดง รูปที่ 8 พระอธิการตระกูลศักดิ์ กตสาโร รูปที่ 9 พระจรรยา ปิยธัมโม
ศาลาการเปรียญฝีมือช่างญวน วัดราษฎร์ประดิษฐ์
ศาลาการเปรียญ วัดราษฎร์ประดิษฐ์ ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2468 สร้างขึ้นก่อนพระอุโบสถ ก่อด้วยอิฐฉาบปูนทั้งสองด้าน โดยใช้อิฐที่เผาขึ้นเองซึ่งชาวบ้านได้ใช้ดินจากหนองคันใส บริเวณตะวันออกของหมู่บ้าน ภายในมีการก่อสร้างธรรมาสน์ไว้กลางศาลา เพื่อใช้ในการแสดงธรรมของพระภิกษุ ซึ่งศาลาการเปรียญเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านใช้ปฏิบัติศาสนกิจในวันสำคัญทางศาสนา บริเวณทางเข้ามีประติมากรรมปูนปั้นรูปสัตว์คล้ายกิเลนอยู่ทั้งสองข้าง ประตูทำด้วยไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่สองบาน ด้านหน้ามีการตกแต่งด้วยไม้ฉลุลาย ตามแนวคิดและความเชื่อของชาวบ้านในสมัยนั้น จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ทราบว่าช่างที่ก่อสร้างศาลาการเปรียญนี้มีทั้งช่างพื้นบ้าน และช่างชาวญวนอพยพที่เข้ามาขายแรงงานในสมัยนั้น
ศาลาการเปรียญหลังนี้ มีลักษณะแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูนหมักฐานเอวขันปากพานโบกคว่ำโบกหงาย หลังคาทรงจั่ว ปีกนกมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด ช่อฟ้า ลำยอง สันหลังคา ทำด้วยไม้แกะสลัก เชิงชายตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก และฉลุลวดลาย มีมุขบันไดขึ้นด้านหน้าและด้านหลังเบี่ยงซ้ายห้องที่สอง ราวบันไดตกแต่งด้วยประติมากรรมปูนปั้นรูปมกรคายนาค ด้านทิศตะวันออกมีสัตว์คล้ายเสือเฝ้าบันไดเพิ่มมาข้างละตัว ภายในศาลามีธรรมมาสเก่าฐานอิฐฉาบปูนตกแต่งด้วยลวดลายพันธุ์พฤกษาหลากสี องค์ธรรมาสน์และยอดทำด้วยไม้ฉลุลายผสมผสานลวดลายลายรดน้ำปิดทองคำเปลว
อุโบสถฝีมือช่างญวน วัดราษฎร์ประดิษฐ์
อุโบสถ วัดราษฎร์ประดิษฐ์ ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2478 ขณะนั้นญาท่านพันเป็นเจ้าอาวาส เป็นอุโบสถก่อด้วยอิฐ ฉาบปูนเรียบทั้งสองด้าน หน้าบันวาดลวดลายเขียนสีเป็นรูปคล้ายมังกรพ่นน้ำ อีกด้านเขียนเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ในป่าหิมพานต์ สีสันสวยงามและแปลกตา เนื่องจากเป็นศิลปะช่างญวน ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างขึ้น (โดยว่าจ้างช่างชาวญวนที่เข้ามาขายแรงงานในสมัยนั้นให้ดำเนินการก่อสร้าง) เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนพิธี ปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์ และเป็นที่อุปสมบทให้แก่กุลบุตร การก่อสร้างเสมารอบอุโบสถและมีกำแพงล้อมรอบสร้างจากอิฐชนิดเดียวกัน ภายในเป็นที่ประดิษฐสถานพระประธานปางมารวิชัยก่ออิฐถือปูน ศิลปะไทยอีสาน และเป็นที่รวบรวมพระพุทธรูปบูชาปางต่าง ๆ ทั้งที่แกะจากไม้ และหล่อด้วยโลหะ บันไดทางขึ้นมีศิลปะปูนปั้นเป็นรูปคล้ายพญานาคผสมมังกร เหนือบานประตูทางเข้ามีภาพวาดพระพุทธรูปด้วยลายเส้น อุโบสถนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ต่อมาได้รับการบูรณะซ่อมแซมในปี พ.ศ. 2555
อุโบสถหลังนี้มีลักษณะแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแบบโบราณ มีขนาด 4 ห้อง แบบมีมุขหน้าและพาไล ฐานเอวขันสูง ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วเตี้ย ๆ หลังคาทรงจั่วปีกนกมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด เครื่องประดับหลังคาชุดช่อฟ้า ลำยอง หางหงส์และเชิงชายทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย หน้าบันด้านหน้าตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นรูปมังกร หงส์ ปลา ปู กุ้ง เต่า จระเข้ และดอกบัว ส่วนด้านหลังเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ หงส์ ช้าง กวาง ต้นไม้ และดอกไม้ บันไดมีลักษณะผายออกเล็กน้อย ราวบันไดทั้งสองข้างตกแต่งด้วยประติมากรรมปูนปั้นรูปมกร ผนังด้านข้างอุโบสถทั้งสองข้างเว้นช่องหน้าต่างด้านละ 2 ช่อง พร้อมบานเปิดเข้าทำด้วยไม้ ด้านนอกหน้าต่างตกแต่งด้วยซุ้มโค้งครึ่งวงกลม ด้านนอกอุโมงค์และพาไลที่ผนังมีเสาประดับตกแต่งด้วยบัวหัวเสาเหนือบัวหัวเสาบางต้นมีประติมากรรมปูนปั้นรูปปลาแบบนูนสูง ส่วนผนังมุขหน้าทั้งสองข้างเว้นช่องหน้าต่างโล่งเป็นซุ้มโค้งครึ่งวงกลมข้างละ 1 ช่อง มีบัวหัวเสารองรับซุ้มโค้ง ส่วนด้านหน้าเว้นช่องประตูซุ้มโค้ง 1 ช่อง มีบัวหัวเสารองรับซุ้มโค้งประตูเช่นเดียวกัน ประตูเข้าอุโบสถ 1 ช่อง ทำด้วยไม้บ้านคู่เปิดเข้า เหนือซุ้มประตูตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นแบบนูนต่ำ กลางซุ้มมีภาพจิตรกรรมรูปพระพุทธรูปประทับนั่ง ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าปางมารวิชัยบนฐานชุกชียาว ผนังด้านหลังองค์พระประธานมีภาพจิตรกรรมรูปพระพุทธรูปประทับยืนขนาบข้างซ้าย-ขวา
กุฏิลาย กุฏิไม้ วัดราษฎร์ประดิษฐ์
กุฏิลาย วัดราษฎร์ประดิษฐ์ จำนวน 2 หลัง เป็นกุฏิที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง มีเสาจำนวน 12 ต้น หลังคาเดิมมุงด้วยแป้นไม้ทั้งหมด แต่เนื่องจากมีอายุการก่อสร้างเป็นเวลายาวนาน ทำให้ไม้มุงหลังคาผุพัง ชาวบ้านจึงร่วมกันเปลี่ยนเป็นสังกะสี ด้านหน้าจั่วและฝาผนังกุฏิมีการติดประดับด้วยกระจกเพื่อให้เกิดความสวยงาม และใช้สีทาตกแต่งฝาผนังกุฏิ และมีการใช้ไม้แผ่นแกะสลักลวดลาย เพื่อแสดงให้เห็นภูมิปัญญา และฝีมือเชิงช่างพื้นบ้านอีสาน (ญาท่านพันเป็นผู้นำในการก่อสร้าง) ปัจจุบันกุฏิลายชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรแล้ว และต่อมาได้รับการบูรณะซ่อมแซมแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2556
กุฏิลาย มีลักษณะเป็นเรือนเสาไม้ใต้ถุนโล่ง มี 3 หลังต่อกัน ปัจจุบันเหลือเพียง 2 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เรือนหลังใหญ่หลังคาทรงจั่วปีกนกมุงด้วยไม้แป้นเกล็ดหน้าจั่วลูกฟัก เครื่องประดับหลังคาทำด้วยไม้แกะสลักลวดลาย ประกอบด้วย ช่อฟ้า ปั้นลม และหางหงส์ ผนังฝาสายบัวทั้งหลังแต้มสี ไม้ปิดหัวตงแกะสลักลวดลายแต้มสี เว้นช่องหน้าต่างแบบมีหย่องด้านหน้าและด้านหลังข้างละ 1 ช่อง บานไม้คู่มีอกเลาเปิดเข้าด้านในวงกรอบแกะสลักลวดลายแต้มสี ส่วนด้านข้างมีขนาดสามห้องเว้นช่องหน้าต่างเล็กห้องละ 1 ช่อง บานไม้เดี่ยวเปิดเข้า ด้านตรงข้ามเป็นประตูบานไม้คู่มีอกเลาเปิดเข้าด้านใน วงกรอบแกะสลักลวดลายแต้มสี ส่วนเรือนอีกหลังเปิดโล่งหลังคาทรงจั่วปีกนกมุงด้วยไม้แป้นเกล็ดหน้าจั่ว รูปพระอาทิตย์แกะสลักลวดลายประดับกระจกแต้มสี มีชานบันไดขึ้นสองข้าง ตกแต่งเครื่องหลังคาด้วยไม้แกะสลัก
ธรรมมาสไม้ วัดราษฎร์ประดิษฐ์
ธรรมมาสไม้ของวัดราษฎร์ประดิษฐ์ ตั้งอยู่ภายในศาลาการเปรียญ เป็นศิลปะผสมระหว่างศิลปะอีสานกับศิลปะญวน สร้างด้วยไม้ฉลุเป็นลวดลาย และทาสีด้วยสีจากธรรมชาติ ซึ่งยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจนถึงทุกวันนี้ และมีบันไดซึ่งทำจากไม้เนื้อแข็ง มีการตกแต่งลวดลายอย่างงดงาม จัดเป็นโบราณวัตถุที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ธรรมมาสนี้เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการแกะฉลุลวดลาย การใช้สี และการตกแต่งบันไดทางขึ้นธรรมมาส ปัจจุบันยังมีการใช้งานธรรมมาสนี้ในการแสดงธรรมในบุญมหาชาติของชาวบ้าน
กรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานวัดราษฎร์ประดิษฐ์ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 118 ตอน 124ง ฉบับวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2544 พื้นที่โบราณสถานประมาณ 3 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา และบูรณะซ่อมแซมเมื่อปี พ.ศ.2555-2556
ที่ตั้ง วัดราษฎร์ประดิษฐ์
บ้านกระเดียน ตำบลกระเดียน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัดภูมิศาสตร์ วัดราษฎร์ประดิษฐ์
15.600317, 105.076024918
เอกสารอ้างอิง
ไกด์อุบล. (2556). เชิญชม สิม หอแจก และกุฏิลาย วัดราษฎร์ประดิษฐ์ อ.ตระการพืชผล จ.อุบล, วันที่ 13 มีนาคม 2560. http://guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=66&d_id=66
มะลิวัลน์ สินน้อย, ผู้รวบรวม. (2551). ฐานข้อมูลวัดในจังหวัดอุบลราชธานี, 2 มีนาคม 2560. http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/ubon_temple
สำนักศิลปากรที่ 11 อุบลราชธานี. (ป้ายประชาสัมพันธ์)