ผ้าขาวม้า บ้านนากระแซง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี มีความโดดเด่นคือความนุ่ม ไม่ยับง่าย ซึมซับน้ำได้ดี รีดด้วยความร้อนและเรียบง่าย ซักแล้วสีไม่ตกและไม่หด ทอจากด้ายเทยิ่นด้วยกี่กระตุก
กลุ่มพัฒนาอาชีพสตรี บ้านนากระแซง
กลุ่มพัฒนาอาชีพสตรี บ้านนากระแซง เริ่มก่อตั้งกลุ่มในปี พ.ศ. 2553 ประกอบด้วย สมาชิกทั้งหมด 10 คน โดยมีนางกุศล คูณมี เป็นประธานกลุ่ม โดยสมาชิกแต่ละคนจะทำหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมด้าย ไปจนถึงการทอเป็นผืนผ้า ในการเริ่มต้นก่อตั้งกลุ่มนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้เข้ามาให้การสนับสนุนและให้ความรู้เรื่องการทอผ้าขาวม้าเบื้องต้น จากนั้นสมาชิกก็ได้เรียนรู้ ลองถูกลองผิดด้วยตนเอง และพัฒนาการผลิตผ้าขาวม้าเรื่อยมา
ผ้าขาวม้าบ้านนากระแซง
ผ้าขาวม้าบ้านนากระแซง เป็นผ้าขาวม้าที่ผลิตจากเส้นด้ายสำเร็จรูป ซึ่งกลุ่มผู้ทอผ้าจะรู้จักกันในชื่อ “ด้ายเทยิ่น” ซึ่งเป็นเส้นด้ายสังเคราะห์ที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ (polyester) ผสมกับเส้นใยเรยอน (rayon) ในอัตราส่วนเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 65% ผสมกับเส้นใยเรยอน 35% โดยกลุ่มผู้ผลิตจะซื้อด้ายชนิดนี้จากร้ายขายเส้นด้ายสำเร็จรูปในอำเภอเดชอุดม
ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าของบ้านนากระแซงนั้นจะมีความนุ่ม ไม่ยับง่าย ซึมซับน้ำได้ดี รีดด้วยความร้อนและเรียบง่าย ซักแล้วสีไม่ตกและไม่หด
ลวดลายของผ้าขาวม้านั้น มี 2 ลวดลาย ได้แก่ ลายตารางใหญ่ หรือที่เรียกกันในชุมชนว่า “ลายตาโก้ง” เป็นลวดลายที่ทอกันมาตั้งแต่เดิม โดยขนาดของตารางเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดของตารางประมาณ 2×2.5 นิ้ว เท่ากันทั้งผืน ส่วนอีกลายหนึ่งนั้นเป็นลายประยุกต์ขึ้นมาใหม่ เรียกว่า ลายสก็อต คือ การทอเลียนแบบลายตารางของต่างประเทศ เป็นลักษณะของการทอที่มีลายตารางไม่เท่ากัน โดยขนาดของตารางขึ้นอยู่กับการกำหนดของผู้ทอ การเลือกใช้สีในแต่ละผืนจะแตกต่างกันตามความชอบของผู้ทอผ้าผืนนั้น ๆ ดังนั้นจึงทำให้ได้สีสันที่หลากหลาย
ขนาดของผ้าขาวม้านั้นไม่มีขนาดมาตรฐานตายตัว ขึ้นอยู่กับการใช้งานหรือการกำหนดของกลุ่มทอผ้าในแต่ละกลุ่มเป็นผู้กำหนดเอง ซึ่งขนาดของผ้าขาวม้าบ้านนากระแซงนั้นจะมีขนาดเดียว คือ กว้าง 84 เซนติเมตร ยาว 220 เซนติเมตร
ช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าของกลุ่มผู้ผลิตผ้าขาวม้าบ้านนากระแซง มีหลายระดับ ดังนี้
- ระดับชุมชน มีการจำหน่ายผ้าขาวม้าในระดับหมู่บ้านนากระแซงและหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยผ้าขาวม้าที่ได้รับความนิยมจะเป็นผ้าขาวม้าลายแบบดั้งเดิม
- ระดับจังหวัด กลุ่มผลิตขาวม้าบ้านนากระแซง จะมีการออกร้านเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าในงานเทศกาลต่าง ๆ ในระดับจังหวัด เช่น งานกาชาด งานเทศกาลแห่เทียนพรรษา โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานเทศกาลนั้น ๆ โดยผ้าขาวม้าลายสก็อตจะได้รับความนิยมมากกว่าลายตาโก้ง
- ระดับประเทศ กลุ่มผ้าขาวม้าบ้านนากระแซงจะได้รับการติดต่อจากหน่วยงานของรัฐให้ไปออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปเป็นประจำทุกปี ณ กรุงเทพฯ ซึ่งทำให้ทางกลุ่มผู้ผลิตนั้นได้พบปะกลุ่มลูกค้าที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ลายที่เป็นที่นิยมคือ ลายตาโก้งหรือลายดั้งเดิม
อุปกรณ์ในการผลิตผ้าขาวม้า
- ด้าย
- หลักเฝือ
- ฟืม
- อัก หรือตะกอปั่นด้าย และไม้คอนอัก
- หลา
- กง
- กระสวยและแกนกระสวย
- กี่ หรือ หูก
การทอผ้าขาวม้า บ้านนากระแซง
1.การเตรียมด้าย นำด้ายที่เลือกสีไว้แล้วมาใส่ในกง ซึ่งกงเป็นอุปกรณ์ที่ทำจากไม้ไผ่เหลาเป็นซี่ยาวประมาณ 1 เมตร 8 อัน และนำมาผูกโยงเข้ากันด้านละ 4 อัน ด้วยเชือกและมีแกนกลาง 1 แกน เพื่อจะกวักด้ายใส่ไว้ในอัก เป็นการเตรียมด้ายไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป
2.การเตรียมเครือ หรือเส้นยืน ภาษาอีสานเรียกว่า การค้นหูก ในขั้นตอนนี้จะต้องดูว่าฟืมที่ใช้มีความกว้างเท่าใด ในท้องถิ่นอีสานฟืมจะมีหน่วยนับความกว้างเป็น หลบ ฟืมที่ใช้ทอผ้าขาวม้าจะมีขนาดความกว้างต่างกัน ตามขนาดของเส้นด้ายที่ใช้ทอ ถ้าเป็นด้ายเส้นใหญ่ จะนิยมใช้ฟืม 10 หลบ ถ้าเป็นด้านเส้นเล็กจะนิยมใช้ 12-15 หลบ ฟืมจะมีตาหรือรู ซึ่ง 1 รู จะใช้เส้นด้าย 2 เส้น คือ เส้นขึ้นและเส้นลง การขึ้นเครือจะมีวิธีการคำนวณเส้นด้าย ดังนี้
4 รูฟืม เท่ากับ 1 ควม หรือเท่ากับ 8 เส้นด้าย
10 ควม เท่ากับ 1 หลบ หรือเท่ากับ 80 เส้นด้าย
ถ้าเป็นฟืม 10 หลบ เท่ากับ 100 ควม หรือ เท่ากับ 800 เส้นด้าย
เทคนิคการนับเช่นนี้ ถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมโดยแท้ซึ่งการกำหนดลำดับก่อนหลังของลายผ้า สี หรือ ขนาดความกว้างของตาผ้าขาวม้านั้น ชาวบ้านจะนับตามหน่วยข้างต้น
3.เมื่อเตรียมด้ายเส้นยืนหรือค้นหูกได้ตามขนาดความกว้างของฟืมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การไนด้ายเส้นยืนเข้าฟืม หรือที่เรียกว่า การสืบหูก ฟืมเป็นอุปกรณ์ในการทอผ้าที่มีส่วนประกอบ คือ ตัวฟืม มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีซี่หลาย ๆ ซี่ตรงกลาง และมีเขาฟืมเพื่อดึงเส้นด้ายลายยืนให้ขึ้นลง ขัดกับด้ายลายพุ่งในขั้นตอนการทอ ผ้าขาวม้าจะนิยมใช้ฟืม 2 เขา ซึ่งเป็นลายขัด การสืบหูก คือการนำเครือหรือด้ายเส้นยืนมาต่อเข้ากับด้ายเก่าที่ติดมากับฟืม โดยต้องต่อตามลำดับของลายที่ได้ค้นไว้ทีละเส้น เมื่อต่อเสร็จครบทุกเส้นแล้วจึงนำไปขึ้นกี่เพื่อเตรียมทอต่อไป
4.การเตรียมด้ายพุ่ง คือ การนำด้ายสีเดียวกันกับลายเส้นยืนมาปั่นใส่หลอดกระสวยให้ได้ขนาดของกระสวย โดยใช้หลาเป็นอุปกรณ์ในการปั่นด้ายออกจากอัก
วิดีทัศน์จาก Youtube : Ocean Life ไทยสมุทรประกันชีวิต
ที่ตั้ง แหล่งทอผ้าขาวม้า บ้านนากระแซง
เลขที่ 400 บ้านนากระแซง หมู่ที่ 13 ตำบลนากระแซง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
บรรณานุกรม
ประกาศิต แก้วรากมุข. (2559). รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ การผลิตผ้าขาวม้าลายพิมพ์ กรณีศึกษากลุ่มทอผ้าขาวม้า บ้านนากระแซง ตำบลนากระแซง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี. อุบลราชธานี : คณะศิลปประยุกต์และสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.