วัดพระโต พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อศรัทธาสองฝั่งโขงไทยลาว

วัดพระโต อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ หนึ่งในพระองค์ตื้อทั้ง 4 ในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของชาวไทยและชาวลาว

prato (5)

ประวัติวัดพระโต

วัดพระโต ตามที่มีการบันทึกไว้ เป็นวัดที่อยู่ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีอาณาเขต ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตกจดหมู่บ้าน และทิศตะวันออกจดแม่น้ำโขง อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถกว้าง 16 เมตร ยาว 20 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2532 วิหารกว้าง 16 เมตร ยาว 32 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2509

วัดพระโต ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2378 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2516 การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ 1 พระโกษ รูปที่ 2 พระพรม รูปที่ 3 พระโก่ม รูปที่ 4 พระโนม รูปที่ 5 พระหลักคำ รูปที่ 6 พระสอน รูปที่ 7 รูปที่ 8 พระมิ่ง รูปที่ 9 พระอิ้ง รูปที่ 10 พระกุ รูปที่ 11 พระคำมา รูปที่ 12 พระสิม รูปที่ 13 พระยัง รูปที่ 14 พระครูพุทธวราภิบาล รูปที่ 15 เจ้าอธิการทองคำ ยสโชโต

prato (6)

พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ  วัดพระโต

พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยอิฐผสมปูนขาว ขนาดหน้าตักกว้าง 2.90 เมตร สูง 4.36 เมตร สูง  1.19 เมตร พระพุทธรูปที่เก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนคนไทย  และประชาชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  (สปป.ลาว)  เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้บูชาตลอดมา  จนกลายเป็นประเพณีที่สำคัญในการนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ  ระหว่างวันขึ้น  9  ค่ำถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี  และจะมีประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งไทย-ลาว  ได้มานมัสการจำนวนมาก ประวัติการสร้างพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด มีเพียงการบันทึกจากคำบอกเล่าของคนแก่ ซึ่งได้เล่าสืบทอดกันมาว่า

มีกษัตริย์สมัยขอมพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้เสด็จล่องเรือลงมาตามลำแม่น้ำโขงในฤดูฝน พอถึงบ้านปากแซงก็ค่ำลง จึงได้หยุดประทับแรม 1 คืน วันรุ่งขึ้น พระองค์ได้เสด็จขึ้นไปยังหมู่บ้าน และได้พบกับเจ้ากวนของหมู่บ้านในสมัยนั้น พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้ตรัสถามถึงประวัติของหมู่บ้าน เจ้ากวนได้เล่าให้ฟังว่า บ้านนี้มีหาดสวยงามกว้างใหญ่ ในฤดูแล้ง หาดทรายจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ และหาดทรายแห่งนี้มีสิ่งอัศจรรย์อยู่คือ ถ้าปีใดหาดทรายโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำระหว่างหมู่บ้าน ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อพระองค์ได้ทราบก็เกิดศรัทธาในใจว่า สักวันหนึ่งจะต้องย้อนกลับมาสร้างหมู่บ้านนี้ให้เป็นเมือง

ในราว พ.ศ. 1154 พระองค์ ก็ได้เสด็จมา พร้อมด้วยข้าทาสบริวารเป็นจำนวนมาก เมื่อเสด็จมาถึง พระองค์จึงได้มอบให้เจ้าแสง (คงจะเป็นนายชั้นผู้ใหญ่) เป็นคนควบคุมการก่อสร้างพร้อมกันนี้ก็ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่ง ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 1180 และขนานนามว่า พระอินทร์ใส่โฉม (ต่อมาเรียก พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) เมื่อเจ้าแสงก็ถึงกรรมลง ชาวเมืองได้สร้างหอหลักเมืองขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และขนานนามว่า หอแสง ต่อมาวัดแห่งนี้ก็ขาดคนบูรณะ และกลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ควาญช้างในหมู่บ้านนี้ ได้ไปพบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว และได้บอกบุญชาวบ้านร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระโต”

prato (2) prato (3)

และจากหลักฐานการบูรณะวัดพระโต  ในปี พ.ศ.2461 พระครูกุ พร้อมชาวบ้านได้ร่วมกันก่อสร้างวิหารโดยว่าจ้างช่างชาวญวนใช้เวลาสร้าง 3 ปี และจารึกไว้ที่วิหารว่า  “ข้าพเจ้าพระครูทองกุศกร  สมภาควัดกลางเขมราฐ  มีท่านพระครูกุ  เป็นประธานพร้อมด้วยข้าพเจ้าทั้งหลายทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านได้พร้อมใจกันบริจาคทรัพย์สร้างวิหารพระเจ้าใหญ่ปากแซง ใน  5  หมู่บ้าน คือ บ้านปากแซง บ้านนาทราย บ้านพะลาน บ้านบก บ้านทุ่งเกลี้ยง ได้จ้างคนอานาม (เวียดนาม) เป็นเงิน  700 บาท สร้างเมื่อ พ.ศ. 2463 ถึง พ.ศ. 2468 แล้วเสร็จ”

พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อจากอดีตถึงปัจจุบันยังคงเป็นปูชนียวัตถุอันสำคัญเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์  เป็นศูนย์รวมดวงใจชาวไทย – ลาวสองฝั่งโขง เชื่อมโยงสู่ความเจริญทางด้านจริยธรรม  คุณธรรม และประเพณีอันดีงามให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบสานต่อไปไม่มีวันเสื่อมคลาย

prato (7)

ปัจจุบันวัดพระโตถูกพัฒนาขึ้นมากมีการปรับปรุงภูมิทัศน์และสถานที่สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับพุทธศาสนิกชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ตามลำน้ำโขงที่จังหวัดอุบลราชธานี เช่น  สามพันโบก  บ้านสองคอน  หาดสลึง  และต้นปี  2553  มีการค้นพบแหล่งท่องเที่ยวสองฝั่งโขง  คือ  เก้าพันโหง่น  ที่เป็นเกาะแก่งหินกลางลำน้ำโขงตั้งตระหง่านหลายพันก้อน  หลายพันโหง่น  และหาดทรายที่สวยงามใกล้กับวัดพระโต นับเป็นดินแดนสงบ  ปลอดภัย  น่าอยู่  น่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี

prato (8)

ที่ตั้ง วัดพระโต

เลขที่ 31 บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี

พิกัดภูมิศาสตร์ วัดพระโต

15.932774, 105.343777

บรรณานุกรม

ไกด์อุบล. (2560). พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดพระโต บ้านปากแซง, 1 สิงหาคม 2560. http://guideubon.com/news/view.php?t=18&s_id=9&d_id=23

มะลิวัลย์ สินน้อย, ผู้รวบรวม. (2551). ฐานข้อมูลวัดในจังหวัดอุบลราชธานี, 31 กรกฎาคม  2560. http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/ubon_temple

Tag

การทอผ้าไหม การทำต้นเทียนพรรษา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การปฏิบัติธรรม การแกะสลักเทียนพรรษา ครูภูมิปัญญาไทย บุญมหาชาติ บุญเดือนแปด ชุมชนทำเทียนพรรษา บ้านชีทวน พักผ่อนหย่อนใจ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณีท้องถิ่น ประเพณีอีสาน ประเพณีแห่เทียนพรรษา วัดหนองป่าพง วิถีชีวิตคนอีสาน วิปัสสนากรรมฐาน ศิลปกรรมญวน ศิลปกรรมท้องถิ่นอีสาน ศิลปะญวน สถาปัตยกรรมท้องถิ่น สถาปัตยกรรมท้องถิ่นอีสาน สถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา สาขาวัดหนองป่าพง สิม หัตถกรรมการทอผ้า อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอตระการพืชผล อำเภอน้ำยืน อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขมราฐ อำเภอเขื่องใน อำเภอเดชอุดม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี อุโบสถ ฮีตสิบสอง