กลุ่มผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดม การสร้างสรรค์ศิลปหัตถกรรมเพื่อพัฒนาอาชีพในท้องถิ่น โดยการทำเทียนหอมออกจำหน่ายในรูปแบบที่สวยงามอ่อนหวานเลียนแบบธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกของอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
กลุ่มผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดม
ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2543 โดยการริเริ่มของคุณชลิดา พูลทรัพย์ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ เมื่อโยกย้ายกลับมายังถิ่นฐานบ้านเกิดจึงมีแนวคิดที่จะสร้างงานในท้องถิ่นขึ้น เนื่องด้วยเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี มีความคุ้นเคยกับประเพณีแห่เทียนพรรษาซึ่งประเพณีที่โดดเด่นของจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้สร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเทียนขึ้นให้มีความสวยงามและใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการจุดเป็นพุทธบูชา
รูปแบบผลิตภัณฑ์เทียนหอมที่ได้พัฒนาขึ้นเป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะที่แตกต่างจากที่อื่น ๆ โดยการนำลายศุภลักษณ์เลียนแบบธรรมทั้งดอกไม้ใบหญ้าที่ละเอียดอ่อนเหมือนจริงมาใส่ไว้ในงาน อีกทั้งโดดเด่นในการจัดวางโทนสี โดยเน้นความสวยงาม สีสันสดใสสะอาดตา เหมาะสำหรับเป็นของฝากของที่ระลึก เก็บสะสม นอกจากนั้น ยังมีหัวน้ำหอมสกัดใส่ผสมลงไปในเทียนเพื่อให้เกิดกลิ่นหอ หัวน้ำหอมสมุนไพรที่ใช้ได้จากศูนย์น้ำหอมสมุนไพรบ้านม่วง อำเภอเดชอุดม ทั้งยังได้นำวัสดุพื้นถิ่นมาใช้เป็นภาชนะบรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้จากกลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านบ้านเวียงเกษม และเครื่องปั้นดินเผาจากปากห้วยวังนอง เป็นลักษณะบูรณาการด้านการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยกระจายรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น จุดเด่นเป็นดอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดม คือ การจำลองความเป็นธรรมชาติที่เหมือนจริง มีความอ่อนหวานละมุนละไม ผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดม สร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างมาก สามารถจำหน่ายได้ทั้งในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ
วัสดุอุปกรณ์ในการทำผลิตภัณฑ์เทียนหอม
- แผ่นเทียนและส่วนผสม
- กาน้ำร้อน
- บล็อกปั้มเทียน
- สีย้อมเทียน
- ลายปั้นเทียน
- กะลามะพร้าว
- ไดร์เป่าผม
- เครื่องเจีย
- สว่าน
- เตาแก้ส
วิธีการ/ขั้นตอนการผลิตเทียนหอม
- นำส่วนผสมต่าง ๆ ของเทียนมาต้มรวมกัน เมื่อเทียนหลอมละลายแล้ว ตักเทใส่กาน้ำแล้วเทลงถาดให้มีความหนา 0.3 เซนติเมตร เทให้สม่ำเสมอกันทั้งแผ่น จากนั้นปล่อยให้เย็นและเทียนจะเริ่มแข็งตัว
- เมื่อเทียนแข็งตัวแล้วให้ใช้บล็อคเหล็กทรงกระบอก กดลงบนแผ่นเทียนเพื่อให้ได้แผ่นเทียนรูปร่างกลม หรือบล็อกรูปทรงอื่น ๆ ตามที่ต้องการ แกะแผ่นเทียนเป็นชิ้น ๆ นำมาซับให้แห้ง
- เริ่มขึ้นดอกด้วยการปั้นตัวตุ้มหรือเกสรดอกก่อน โดยจะปั้นให้มีลักษณะรูปร่างเหมือนหยดน้ำ การจะนำแผ่นเทียนมาปั้นหรือดัดทุกครั้ง ต้องนำแผ่นเทียนไปชุบในน้ำเทียนที่ต้มไว้แล้วก่อนเพื่อให้แผ่นเทียนอ่อนตัวและดัดรูปทรงได้ง่าย
- เมื่อได้ตุ้มดอกแล้วนำไปจุ่มลงในสีย้อมเทียนที่ต้มให้อุ่นตลอดเวลา
- การทำกลีบดอก ให้นำแผ่นเทียนไปพิมพ์ลายด้วยแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเย็นเพื่อให้ลายแข็งและอยู่ตัว
- การขึ้นดอก นำกลีบเดอกที่เตรียมไว้จุ่มในน้ำอุ่นให้อ่อนตัว นำมาบีบขึ้นรูปเข้ากับตุ้มดอกทำเป็นกลีบและชั้น จนได้ดอกไม้ตามแบบที่ต้องการ
- การประกอบเป็นช่อ ให้นำดอกไม้ที่ได้นำมาประกอบเข้ากับส่วนต่าง ๆ ให้เป็นช่อตามที่ออกแบบไว้ หรือตามที่ลูกค้าสั่ง แต่ละช่ออาจจะประกอบไปด้วยใบ ดอกที่มีขนาดแตกต่างกัน หรือดอกที่มีสีที่กลมกลืนกัน
- การเตรียมภาชนะใส่เทียนหอมในที่นี้จะใช้กะลามะพร้าว โดยเริ่มจากการนำกะลามะพร้าวมาขัดให้เรียบทั้งด้านในและด้านนอก เจาะรูใส่ขาตั้งให้เรียบร้อย จากนั้นจึงประกอบเป็นช่อดอกต่าง ๆ ลงไป ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญความคิดสร้างสรรค์ในการจัดวาง และเข้าใจในองค์ประกอบของสีที่ทำให้เกิดความกลมกลืนเข้ากันได้เป็นอย่างดี จึงนับว่าเป็นศิลปะที่ต้องอาศัยทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ที่ต้องขบคิดรูปแบบใหม่ ๆ ตลอดเวลา
- ตรวจสอบความเรียบร้อยของชิ้นงานให้ได้คุณภาพ จึงนำออกจำหน่าย
ในปี พ.ศ. 2557 กลุ่มผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดมได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวจังหวัดอุบลราชธานีและชาวโลกให้ได้เห็นความอลังการและความวิจิตรงดงามของเทียนหอม โดยได้มีโอกาสได้นำเทียนหอมมาทำเป็นต้นเทียนร่วมในขบวนแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นขบวนต้นเทียนที่มีความสวยงามอ่อนช้อยและหอมหวาน สร้างความประทับใจและตรึงใจแก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก
กลุ่มผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดม นอกจากจะเป็นแหล่งผลิตและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เทียนหอมแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน โดยการถ่ายทอดความรู้วิธีการทำผลิตภัณฑ์เทียนหอมให้กับเด็กและเยาวชนในท้องถิ่น และรับสอนสำหรับผู้ที่ต้องการนำไปต่อยอดเพื่อประกอบอาชีพอีกด้วย
ที่ตั้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์เทียนหอมเดชอุดม
หมู่ 8 ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
บรรณานุกรม
ชลิดา พูลทรัพย์. (2560). สัมภาษณ์ 26 พฤษภาคม 2560
ฝ่ายเทคโนโลยีทางการศึกษา สำนักวิทยบริการ. (2555). เทียนหอม : วีดีทัศน์รวบรวมและเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสาน, 2 กันยายน 2560. https://youtu.be/YYaISoUhXh8