ชาวบ้านท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี มีการแบ่งพื้นที่นามาทำนาบัวเป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ เพราะให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี บัวที่ปลูกคือ บัวหลวง ซึ่งขายได้ทั้งดอก ฝักบัว และเมล็ดบัว
ชาวบ้านท่าโพธิ์ศรี มีอาชีพหลักคือการทำนา และอาชีพเสริมที่สร้างรายได้อีกทางหนึ่งคือ การทำนาบัว บัวที่ปลูกคือ บัวหลวง ซึ่งสามารถเก็บทั้งดอกและฝักขายได้ มีพื้นที่ปลูกราว ๆ 20-30 ไร่
การทำนาบัวนั้นจะเตรียมพื้นที่ปลูกคล้ายกับนาข้าว ดินที่เหมาะสมในการปลูกถ้าอยู่ในที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำ และเป็นดินเหนียวจะยิ่งดี การเตรียมแปลงปลูก เริ่มจากการนำน้ำออกจากแปลงให้แห้ง ยกคันดินให้สูง จากนั้นไถดะ โรยปูนขาว และทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นไถดะอีกครั้ง ใส่มูลสัตว์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ระบายน้ำเข้า เมื่อดินนิ่มก็จะเริ่มดำนาบัว โดยนำไหลบัวมาปักลงดิน ให้มีระยะห่างประมาณ 1 เมตร จากนั้น 1-2 สัปดาห์บัวก็จะเริ่มแตกกอ ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งอาจจะต้องอาศัยน้ำบาดาลช่วย
ถ้าเป็นนาบัวผืนเก่าที่ทรุดโทรมแล้วก็จะตัดก้านบัวออกโดยใช้เครื่องตัดหญ้า จากนั้นทำการไถดะเพื่อลดความหนาแน่นของไหลบัว และปล่อยน้ำออกให้แห้ง จากนั้นบัวจะเริ่มแตกหน่อใหม่ภายใน 2 สัปดาห์
เมื่อปลูกได้ 3 เดือน ก็สามารถเก็บดอกได้ โดยจะเก็บฝักวันเว้นวัน แต่ในฤดูหนาวจะเก็บวันเว้นสองวัน โดยจะเก็บดอกจะเก็บในระยะที่ดอกยังตูม โดยตัดก้านยาว 40-50 เซนติเมตร คัดขนาดเป็นกำ ๆ ละ 10 ดอก
เมื่อปลูกได้ 3-4 เดือนก็จะสามารถเก็บฝักได้ ฝักแก่จะสังเกตได้จากปลายเมล็ดจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ระยะเวลาตั้งแต่ดอกตูมจนสามารถเก็บฝักได้ใช้เวลา 40-50 วัน และจะให้ผลผลิตยาวนานถึง 3 เดือนกว่านาบัวจะโทรม รายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิต 50,000-60,000 บาท/ไร่ การทำนาบัวจึงเป็นอาชีพเสริมจากการทำนาที่ชาวท่าโพธิ์ศรีนิยมทำกัน ในระหว่างรอการเก็บเกี่ยวข้าว โดยจะทำนาบัวสลับแปลงกันเพื่อให้สามารถเก็บดอกเก็บฝักได้ตลอดทั้งปี
พิกัดภูมิศาสตร์ นาบัวบ้านท่าโพธิ์ศรี
14.8716350, 105.0175430
ที่ตั้ง นาบัวบ้านท่าโพธิ์ศรี
บ้านท่าโพธิ์ศรี ตำบลท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
บรรณานุกรม
นงลักษณ์ พามะเนตร. (2560). สัมภาษณ์ 25 พฤษภาคม 2560
สื่อสร้างสุขอุบลราชธานี. (2556). นาบัวอินทรีย์ท่าโพธิ์ศรี, 20 กันยายน 2560
สังวาลย์ ทีคะสาย. (2560). สัมภาษณ์ 25 พฤษภาคม 2560