เลี้ยงผีตาแฮก แรกนาขวัญ

ผีตาแฮก ตามความเชื่อของชาวอีสาน คือ ผู้อารักษ์หรือผู้ปกป้องผืนนา การทำนาแต่ละครั้งจะต้องมีการบอกกล่าวเซ่นไหว้ผีตาแฮกก่อนเพื่อให้ผีตาแฮกช่วยปกป้องคุ้มครองที่นาและช่วยให้ผลผลิตงอกงามอุดมสมบูรณ์ เป็นจารีตที่ชาวอีสานถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน หากมีการขัดขืนหรือไม่ทำจะถือว่าผิดจารีต (คะลำ) และผีตาแฮกอาจทำอันตรายได้ นอกจากนั้นแล้ว นาตาแฮกยังใช้เป็นนาเสี่ยงทายปริมาณน้ำฝนและผลผลิตข้าวในปีนั้น ๆ อีกด้วย

ความหมายของผีตาแฮก

สำลี รักสุทธี (2544) ได้กล่าวว่า “ตาแฮก” เป็นภาษาอีสาน มาจากคำว่า “ตา” ที่แปลว่า ที่นาที่แบ่งเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ และคำว่า “แฮก” ที่แปลว่า แรก แรกเริ่ม ตั้งต้น เมื่อรวมกันเป็น “ตาแฮก” ที่หมายถึง พื้นที่นาเล็ก ๆ ที่ใช้เป็นที่แรกนาหรือที่ปักไถเป็นครั้งแรก

และได้ให้ความหมายของคำว่า “ตาแฮก” อีกความหมายหนึ่ง คือ อารักษ์หรือผีผู้พิทักษ์รักษาไร่นา ที่มีความเชื่อว่าเป็นผีที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถทำให้ข้าวปลาในท้องนามีอันเป็นไปต่าง ๆ นานาได้ เช่น อาจทำให้ปลาตาย ข้าวเหี่ยวเฉาหรือสวยงามเจริญเติบโตสมบูรณ์ 

บุญยงค์ เกศเทศ (2557) ก็ได้กล่าวไว้อีกว่า ผีตาแฮก เป็นผีที่เฝ้าประจำอยู่ที่ “นาตาแฮก” เพื่อคอยคุ้มกันที่นาและช่วยดลบันดาลให้ผลผลิตในนามีความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังช่วยรักษาครอบครัวของชาวนาอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้จากมีการเรียกว่า “มาเยอ” ซึ่งหมายถึง ปู่เยอ ย่าเยอ ผู้เป็นบรรพชนสูงศักดิ์ 

ส่วนคำว่า “นาตาแฮก” นั้นหมายถึง นาเสี่ยงทายผลผลิตข้าวที่เจ้าของที่นามักทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กไว้ตามคันนา หรืออาจเป็นเนินดินที่สูงกว่าปกติ โดยบริเวณนาตาแฮกนั้นจะปักดำต้นข้าว จำนวน 11 ต้น ถ้าต้นข้าวเจริญงอกงามจนสามารถออกรวงได้นั้นก็หมายถึงผลผลิตบนพื้นนาในปีนั้นจะดีตามไปด้วย

นอกจากนั้น ยังกล่าวว่า “ตาแฮก” เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อผีผู้หญิง ที่เป็นเทพธิดาประจำผืนนาหรืออาจเรียกว่าเป็นผีนาที่ผู้คนที่แต่ละครัวเรือนต่างมีความเชื่อถือศรัทธากันว่า ก่อนจะลงมือทำนาแต่ละฤดูนั้นต้องเซ่นสรวงบูชาผีตาแฮกเสียก่อน จึงจะเพาะปลูกหว่านดำข้าวกล้าได้ผลดี 

ที่อยู่ของผีตาแฮก

ตามความเชื่อที่ว่าผีตาแฮกคืออารักษ์ผู้คุ้มครองที่นา ฉะนั้น ผีตาแฮกจึงอยู่ตามท้องไร่ท้องนา โดยชาวบ้านหรือเจ้าของที่นาจะทำศาลเล็ก ๆ ให้ผีตาแฮกอยู่ ซึ่งชาวอีสานเรียกว่า  “ตูบตาแฮก” ซึ่งมีลักษณะเหมือนบ้านและพบเห็นได้หลายรูปแบบ เช่น

  • นำสังกะสีมาตัดรูปทรงสี่เหลี่ยมทำเป็นหลังคา เจาะรูใส่เสาตรงกลางปักไว้ให้เป็นที่อยู่ของผีตาแฮก 
  • ทำเป็นบ้านไม้ไผ่ โดยใช้ตอกไม้ไผ่สานเป็นบ้านขนาดเล็ก มีเสาไม้หนึ่งเสาสำหรับปักลงข้าง ๆ นาตาแฮก ที่ปลายเสามีห่วงไม้ไผ่คล้องกัน 7 ห่วง

นอกจากนี้แล้ว บางคนก็ทำเป็นแปลงนาเล็ก ๆ ไว้รอบที่อยู่ของผีตาแฮก เพื่อปลูกข้าวเป็นแปลงนาตาแฮกหรือแปลงเสี่ยงทายฟ้าฝนก็มี

ผีตาแฮกอีสาน

ความสำคัญของผีตาแฮก

การเลี้ยงผีตาแฮกเป็นจารีตปฏิบัติที่ชาวอีสานสืบทอดกันมายาวนาน อาจจะเนื่องด้วยว่า ชาวอีสานมีความเชื่อว่าไม่ควรไปล่วงเกินผี ให้ต่างคนต่างดำรงชีวิตอยู่อย่างถ่อมตนและอ่อนน้อมกับธรรมชาติ โดยมีคำผญาพื้นถิ่นที่จำกันขึ้นใจว่า “เจียมผีเฒ่า เจียมเจ้ายืน” โดยมีข้อกำหนดที่รับรู้ร่วมกันว่า

ผีตาแฮกของตนกล้าแข็ง หากใครล่วงล้ำเข้ามาทำประโยชน์ โดยเจ้าของนาไม่ยินยอม ผีตาแฮกอาจทำอันตราย ขณะเดียวกันผีตาแฮกยังเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้ชาวนาเอาใจใส่ดูแลที่นาของตน โดยไม่ปล่อยปละละเลยให้รกร้าง และต้องทำนาอย่างต่อเนื่องทุกปี

นอกจากนั้น ยังพบว่าชาวอีสานยังให้ความสำคัญกับพิธีนี้ โดย การบันทึกไว้ในใบลาน หนังสือผูก หรือหนังสือก้อมต่าง ๆ เพื่อให้สืบทอดและถือปฏิบัติ หากใครไม่ปฏิบัติตามชาวอีสานจะถือว่าเป็นผู้ขัดขืนหรือ “คะลำ” ผีตาแฮกอาจทำอันตรายให้ได้

นิทานความเป็นมาของผีตาแฮก

“ครั้งหนึ่งมีชายสองคนพ่อลูก ลูกชายโตเป็นหนุ่ม ได้เดินทางเข้าไปในป่า พบรอยเท้าของคน 2 คน พ่อจึงตกลงกับลูกชายว่า ถ้าเป็นรอยเท้าผู้หญิงจะต้องเอามาทำเมียคนละคน โดยคนที่มีรอยเท้าเล็กจะเป็นเมียของลูก ส่วนคนที่มีรอยเท้าใหญ่จะเป็นเมียของพ่อ เมื่อตกลงกันได้แล้วจึงเดินทางไปตามรอยเท้า แต่เมื่อพบเจ้าของรอยเท้า ปรากฏรอยเท้าเล็กเป็นเมียของตนเองและรอยเท้าใหญ่เป็นลูกสาวของตนเอง เพื่อไม่ให้ผิดคำพูดพ่อจึงได้สมสู่กับลูกสาว ส่วนลูกชายก็นอนสมสู่กับแม่ของตัวเอง การสมสู่ของพ่อแม่ลูกในครั้งนี้ถูกมนุษย์และเทวดาด่าสาปแช่งอย่างหนัก เมื่อตายแล้วก็ไม่ได้ไปผุดไปเกิด และถูกสาปให้มาเป็นผีเฝ้าไร่นาของมนุษย์ เพื่อทำคุณไถ่บาป จึงเรียกผีนาว่านี้ว่า ผีตาแฮก”

พิธีเลี้ยงผีตาแฮก

สำลี รักสุทธี (2544) กล่าวว่า พิธีเลี้ยงผีตาแฮก ส่วนใหญ่จะมี 2 ครั้ง คือ ก่อนลงนาและก่อนจะตี (นวด) ข้าว ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้  

1.การเลี้ยงผีตาแฮกก่อนลงนา โดย เจ้าของนาจะนำข้าวปลาอาหารหรือเครื่องเซ่นไปเลี้ยงผีตาแฮก ซึ่งประกอบด้วย 

  • ข้าวเหนียวสุก อาจจะปั้นเป็นก้อนหรือคำก็ได้
  • อาหารคาวหวานใส่ถ้วยหรือกระทงใบตองก็ได้ สำหรับอาหารคาวส่วนมากจะเป็นอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันและอาหารพิเศษ นั่นคือ ไก่ต้ม ที่ต้มโดยไม่ต้องใส่เครื่องปรุงอะไร ส่วนของหวานอาจจะเป็นผลไม้ก็ได้
  • เหล้า ส่วนใหญ่จะเป็นเหล้าขาว อาจใส่แก้วหรือใส่ฝาขวดน้ำอัดลมก็ได้
  • หมากพลู บุหรี่ เพราะเชื่อว่าผีตาแฮกจะมีผีบรรพบุรุษรวมอยู่ด้วย ซึ่งชอบกินหมากพลูและสูบบุหรี่
  • น้ำ
  • ไม้ขีด
  • อื่น ๆ ตามแต่ใครจะเห็นเหมะสม 

เมื่อเตรียมของทั้งหมดครบแล้วก็นำไปวางบนตูบตาแฮกหรือศาลตาแฮกแล้วก็เชิญผีตาแฮกมากิน จากนั้นก็ไปแฮกนา (แรกนา) ได้ตามต้องการ

ผีตาแฮกอีสาน

มีคำกล่าวเกี่ยวกับการนำไก่ต้มไปเลี้ยงผีตาแฮกว่า “ต้นไม้ใหญ่บ่มีผีสาวผู้ดีบ่มีชู้ ธรณีสิอกแตก ตาแฮกเปิดไก่ต้ม ดินสิแห้งไง่ผง” แปลว่า “ต้นไม้ใหญ่ไม่มีผีสาวคนดีไม่มีชู้ ธรณีจะอกแตก ตาแฮกเบื่อไก่ต้ม ดินจะแห้งเป็นผุยผง” หมายความว่า ตาแฮกจะต้องกินไก่ต้ม หากตาแฮกเบื่อไก่ต้มถือเป็นเรื่องผิดปกติและเป็นไปไม่ได้ชนิดที่เรียกว่าเกิดความวิบัติแก่บ้านเมืองเลยทีเดียว เมื่อทำพิธีเลี้ยงผีตาแฮกเสร็จแล้ว เจ้าของนาจะคอยจนกว่าถึงเวลาที่คาดว่าผีตาแฮกกินเครื่องเซ่นเสร็จ ก็นำคางไก่ต้มนั้นมาแกะดูขากรรไกรทั้งสองข้าง (คางไก่) เพื่อทำนายฝนในปีนั้น ถ้าคางไก่งอนโค้ง สวย ชูชัน ทำนายว่า น้ำท่าดี ผลผลิตดี

ทำนายอกไก่ ผีตาแฮกอีสาน

2. การเลี้ยงผีตาแฮกก่อนนวดข้าว เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วจะนำมามัดข้าวไปกองรวมกันเรียกว่า “ลอมข้าว” หรือ “ลานข้าว” ก่อนจะนำลงมานวดข้าว (ตี) จะต้องมีการบอกกล่าวหรือเลี้ยงผีตาแฮกอีกเช่นกัน เครื่องเซ่นที่ต้องเตรียมมาเลี้ยงตาแฮกและขาดไม่ได้เลย ประกอบด้วย

  • ข้าวสุก 1 ปั้น (บางแห่งนิยมปั้นเป็นรูปสัตว์)
  • ไข่ต้ม 1 ฟอง
  • เผือกหรือมัน 1-3 หัว
  • บุหรี่ 1 มวน

เครื่องเซ่นอื่น ๆ อาจเพิ่มได้ตามความเหมาะสม แต่ละแห่งอาจไม่เหมือนกัน ผู้ทำพิธีจะนำเครื่องเซ่นดังกล่าวมาห่อรวมกันอย่างดีแล้วมัดไว้ในฟ่อนข้าวหรือมัดซังข้าวที่ตีเมล็ดออกหมดแล้ว ใช้เชือกมัดหัวและมัดท้ายให้แน่นเพื่อให้เครื่องเซ่นที่ใช้เลี้ยงผีตาแฮกอยู่ข้างใน แล้วใช้ไม้เสียบและนำไปปักไว้บนลอมข้าวตรงกลางลอม จากนั้นจึงเชิญผีตาแฮกมากินและขออนุญาตเอามัดข้าวลงมาตีต่อไป

นอกจากนี้แล้วในงานบุญข้าวสาก หรือบุญเดือนสิบตามฮีตสิบสองของคนอีสาน ก็จะมีการนำข้าวสากจากวัดมาวางไว้บนคันนา หรือวางบนตูบตาแฮก แล้วเรียกให้ผีตาแฮกมากินและบอกให้ช่วยดูแลที่นาต่อไปอีกด้วย

ผีตาแฮกอีสาน

พิธีเลี้ยงผีตาแฮก อำเภอโนนสูง จังหวัดมุกดาหาร

จากการรวบรวมข้อมูลของประทับใจ สิกขา (2545) ได้กล่าวถึงพิธีเลี้ยงผีตาแฮก อำเภอโนนสูง จังหวัดมุกดาหาร ไว้ว่า การเลี้ยงผีตาแฮก จะทำพิธีในตอนเช้าตรู่ โดยผู้เป็นพ่อหรือหัวหน้าครอบครัวต้องทำพิธีเพียงคนเดียว

เลี้ยงผีตาแฮกมุกดาหาร

เครื่องประกอบพิธี คือ กระติบข้าว ไก่ และเหล้าซึ่งบรรจุอยู่ในกะลามะพร้าว และมีอุปกรณ์ประกอบพิธีคือ ก่องแขนผีตาแฮก มีความหมายว่า ได้ปลาพวงละตัว อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร ในน้ำมีปลาในนามีข้าว และบ้านผีตาแฮก ชาวผู้ไทยเรียกว่า หนอย

เลี้ยงผีตาแฮกมุกดาหาร

การปักข้าว 7 กอ หมายถึง ให้ได้วัวเขาลาย ให้ได้ควายเขาย้อง (เขาโง้ง) ให้ได้ฆ้อง 9 กำ (ฆ้องใหญ่) ถ้าได้ถือว่ารวยที่สุด ให้ได้คำ 9 หมื่น (ทองคำ) ให้ได้ไก่เต็มรก (เต็มเล้า) ให้ได้ข้าวเต็มเย้ (เล้า) ให้ได้เมียผู้ดีมาเทียมข้าง (ให้ได้เมียงามมาเคียงข้าง)

ก่อนจะเริ่มทำไร่ทำนาของทุกปี ชาวผู้ไทยตำบลโนนยาง อำเภอโนนสูง จังหวัดมุกดาหาร จะทำพิธีเลี้ยงผีตาแฮกหรือจ้ำเข่าผีตาแฮกให้ผีไร่ผีนาได้อยู่ได้กิน เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของไร่นา ด้วยมีความเชื่อมาแต่ดั้งเดิมจากบรรพบุรุษว่า 

“ไก่พระยา นาพระเจ้า ข้าวพระอินทร์ ผู้ข้าเฮ็ดอยู่ เฮ็ดกิน เฮ็ดทาน ขอให้อุดมสมบูรณ์ ในน้ำขอให้มีปลา ในนาขอให้มีข้าว ให้เบิ่งให้แงง บ่ให้ช้าง ให้ม้า สิงสาราสัตว์ สิ่งต่าง ๆ เข้ามารบกวน เข้ามากัดมากิน”

เป็นการบอกกล่าวผีไร่ผีนาให้ช่วยสอดส่องดูแลไม่ให้สัตว์ต่าง ๆ เข้ามารบกวน ทำลายพืชพันธุ์ที่ปลูกไว้โดยการแฮะนาหรือการไถนา ดำนาเตรียมไว้ ก่อนวันทำพิธีเลี้ยงผีตาแฮกนั้นจะทำการล้อมรั้วหรือคอกไว้ที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งในนาข้าว เป็นการป้องกันไม่ให้วัวควายลงไปกินหรือเหยียบย่ำทำลายหรือไม่ให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแตะต้องบริเวณนั้น ก่อนวันทำพิธี เพราะถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์

เลี้ยงผีตาแฮกมุกดาหาร เลี้ยงผีตาแฮกมุกดาหาร

พิธีแฮกนา

ในหนังสือประเพณีอีสาน ฉบับ ส.ธรรมภักดี ได้กล่าวไว้ว่า หลังจากทำพิธีเลี้ยงผีตาแฮกแล้ว ชาวนาก็จะไปที่นาตาแฮก ที่ทำขึ้นโดนการปั้นคันนามุมใดมุมหนึ่งหรือแจนาให้สูง กว้างยาวประมาณ 4 ศอก ปักเสา 4 ต้นเอาหนามมาล้อมเป็นรั้วไว้ จากนั้นชาวนาก็จะไปเตรียมไถลงแฮกนาหรือแรกนา โดยการไถที่นาเป็นวงกลมเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับปักดำกล้าข้าว บางคนก็มีสังเกตก้อนขี้ไถไปด้วยเพื่อทำนายว่าปีนี้ฝนจะดีหรือไม่

พิธีปักนาตาแฮก จะเริ่มด้วยการนำกล้าข้าวมาจำนวน 8 ต้น พร้อมยกเครื่องขันธ์ 5 มาวาง จากนั้นทำการปักต้นกล้าแต่ละต้นพร้อมกล่าวว่า

ปักกกนี้พุทธรักษา ปักกกนี้ธรรมรักษา ปักกกนี้สังฆรักษา ปักกกนี้เพิ่นเสียให้กูได้ ปักกกนี้เพิ่นไฮ้ให้กูมี ปักกกนี้ให้ได้หมื่นมาเยีย ปักกกนี้ให้ได้หมื่นเญียพันเล้า ปักกกนี้ขวัญข้าวให้มาโฮม

เมื่อปักครบทั้ง 8 ต้น ก็เป็นอันเสร็จพิธีปักนาตาแฮก ทั้งนี้ หากจะลงมือปักดำข้าวในนาธรรมดา ก็ให้ทำพิธีปักกกแฮกก่อน แล้วจึงลงมือปักต้นกล้าข้าวในที่นาอื่น ๆ ต่อไป

ผีตาแฮกอีสาน

พิธีปักกกแฮก (ต้นแรก) ชาวนาอีสานจะเลือกเอา “วันฟู” หรือ “วันลอย” ตามวิธีการนับแบบจันทรคติ เป็นวันทำพิธีปักกกแฮก ตามความเชื่อที่ว่า “วันฟู” คือ วันแห่งโชคลาภ อันจะนำความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาในชีวิต ในวันนั้นจะทำการจัดเครื่องขันธ์ 5 มาพร้อมกับต้นกล้าจำนวน 14 ต้น เพื่อทำพิธีปักกกแฮก โดย ก่อนจะลงมือปักต้นกล้าต้นใดลงไปในนาข้าว ให้กล่าวว่า

“ไฮ่นี้ไฮ่ก้ำขวา นานี้นาท้าวทุม ท้าวทุมให้กูมาแอกนากูจักแอก พญาให้กูมาแฮกไฮ่กูจักแฮก ปักกกนี้ให้กูได้งัวแม่ลาย ปักกกนี้ให้กูได้ควายเขาช้อง ปักกกนี้นกจิบโตตาบอดให้บินหนี ปักกกนี้นกจอกโตตาหวานให้บินหนี ปักกกนี้แมงคาโตฮู้ย่ำกกข้าวให้บินหนี ปักกกนี้ให้ได้ฆ้องเก้ากำ ปักกกนี้ให้ได้คำเก้าหมื่น ปักกกนี้ให้อวนข้าวหมื่นมาเยีย ปักกนี้ให้มานใหญ่ทอมานอ้อย ปักกกนี้ให้มานน้อยท่อมานเลา ปักกกนี้ให้ได้เป็นเศรษฐีเท่าเฒ่า โอมสหุมฯ

ผีตาแฮกอีสาน

บรรณานุกรม

บุญยงค์ เกศเทศ. (2557). ผีวิถีคน ความเชื่อและการพึ่งพาระหว่างคนกับผี. มหาสารคาม : กากะเยีย.

ประทับใจ สิกขา. (2545).  การรวบรวมข้อมูลพิธีกรรมชนแดนโขงด้วยภาพถ่ายและวีดิทัศน์ รายงานโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2545. อุบลราชธานี : สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

ส.ธรรมภักดี. (2542). ประเพณีอีสาน. กรุงเทพฯ : ส.ธรรมภักดี.

สำลี รักสุทธิ. (2544). สืบสานตำนานงานบุญประเพณีอีสาน. กรุงเทพฯ : พัฒนาศึกษา.

Tag

การทอผ้าไหม การทำต้นเทียนพรรษา การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การปฏิบัติธรรม การแกะสลักเทียนพรรษา ครูภูมิปัญญาไทย บุญมหาชาติ บุญเดือนแปด ชุมชนทำเทียนพรรษา บ้านชีทวน พักผ่อนหย่อนใจ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณีท้องถิ่น ประเพณีอีสาน ประเพณีแห่เทียนพรรษา วัดหนองป่าพง วิถีชีวิตคนอีสาน วิปัสสนากรรมฐาน ศิลปกรรมญวน ศิลปกรรมท้องถิ่นอีสาน ศิลปะญวน สถาปัตยกรรมท้องถิ่น สถาปัตยกรรมท้องถิ่นอีสาน สถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา สาขาวัดหนองป่าพง สิม หัตถกรรมการทอผ้า อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอตระการพืชผล อำเภอน้ำยืน อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขมราฐ อำเภอเขื่องใน อำเภอเดชอุดม อำเภอเมืองอุบลราชธานี อุบลราชธานี อุโบสถ ฮีตสิบสอง