วัดสระประสานสุข หรือ วัดบ้านนาเมือง อุบลราชธานี เป็นวัดที่มีพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) อดีตเจ้าอาวาสพระอริยสงฆ์ที่ประชาชนศรัทธาเลื่อมใสด้วยจริยวัตรปฏิบัติอันงดงาม ภายในวัดมีงานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ได้แก่ อุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์ ประตูทางเข้าวัดรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 3 เศียร วิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราช
ประวัติวัดสระประสานสุข หรือ วัดบ้านนาเมือง อุบลราชธานี
วัดสระประสานสุข ชื่อเดิม วัดบ้านนาเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 5 กิโลเมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2470 โดยการนำของพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีทอง หรือวัดศรีอุบลรัตนารามซึ่งเป็นผู้บุกเบิกและวางรากฐานก่อสร้างมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ. 2480 ท่านจึงได้วางแผนและดำเนินการพัฒนาวัดโดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านญาติโยมผู้เลื่อมใสศรัทธา จนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับ ที่ดินของวัดประมาณ 75 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามเสมา เมื่อ พ.ศ. 2505 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร
ผลงานการพัฒนาวัดสระประสานสุขที่พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้ริเริ่มและดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ ภายในวัด เพื่อให้วัดเป็นศาสถานที่เป็นแหล่งรวมใจของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป มีดังนี้
ปี พ.ศ. 2515 พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้เป็นผู้นำศรัทธาชาวบ้านก่อสร้างศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ ในลักษณะทรงปั้นหยา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่ ที่และรูปหล่อเหมือนพระเถรจารย์ชื่อดังอีกหลายองค์ที่พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) เป็นผู้นำศรัทธาชาวบ้านหล่อไว้เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา
ปี พ.ศ. 2529 พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล)ได้ออกแบบและเป็นประธานในการก่อสร้างพระอุโบสถโดยสร้างเป็นอุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์ อันมีความหมายว่า จะเป็นพาหนะที่จะพาบรรดาพุทธศาสนิกชนผู้มีใจเป็นกุศลข้ามห้วงมหาสมุทรแห่งวัฏสงสารสู่ดินแดนมหานิพพาน ซึ่งพระอุโบสถที่หลวงปู่สร้างนี้มีความสวยงามตั้งเด่นเป็นสง่าแปลกกว่าที่วัดอื่น ๆ เพราะเป็นอุโบสถอยู่บนเรือสุวรรณหงส์ประดับด้วยเซรามิคสีน้ำตาลแดงขนาดใหญ่ ส่วนด้านหน้าอุโบสถประดิษฐานรูปหล่อพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ก่อให้เกิดความศรัทธาต่อญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดสระประสานสุขเป็นอย่างยิ่ง
ปี พ.ศ. 2532 พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้นำคณะศิษยานุศิษย์สร้างหอระฆัง 5 ชั้น ประดับด้วยเซรามิคสีน้ำตาลแดง โดยมี นายชุ่นเลี้ยง แซ่ล้อ และนางโชจิร แซ่เตียว (เสี่ยบุญชัย) รับเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้าง
ปี พ.ศ. 2534 พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้นำศิษยานุศิษย์สร้างพระพุทธรูปปางประทานพรสูง 7 เมตร 77 เซนติเมตร และได้ถวายนามว่า “พระพุทธโชติปาละชนะมาร” และสร้างพระสังกัจจายเป็นปูนปั้นสูง 3 เมตร 77 เซนติเมตร ถวายนามว่า “พระสังกัจจาย โชติปาโล”
วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2538 ทำพิธีเพื่อสร้างวิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราช เวลาเที่ยงตรง และวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2539 ทำพิธีตอกเสาเข็มเวลาเที่ยงตรง วิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราช เป็นวิหารกลางน้ำนาคราชรูปร่างคล้ายเรือ ส่วนหัวเป็นนาคราช 5 เศียร โดยทางเดินเข้าวิหารกลางน้ำเป็นทางเดินด้านหางของนาคราช ตั้งอยู่ด้านหลังของวัดและมีปลาอาศัยอยู่ในสระน้ำใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยพุทธศาสนิกชนได้นำมาปล่อยไว้ ซึ่งหลวงปู่บอกว่าไม่อยากให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน จึงไม่มีใครนำปลาที่สระน้ำใหญ่ไปกิน ทำให้ปลามีปริมาณมาก
นอกจากนี้แล้วพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ยังได้ก่อสร้างศาสนสถานต่าง ๆ ภายในวัดสระประสานสุข คือ วิหารโชติปาโล กุฏิโชติปาโลนุสรณ์ ลักษณะทรงไทย กุฏิโชติธรรมลักษณะทรงไทย หอสวดมนต์ในลักษณะทรงไทย และที่สร้างความประทับใจเป็นพิเศษให้แก่ชาวบ้านญาติโยมที่เดินทางมายังวัดสระประสานสุขอีกแห่งหนึ่ง คือ ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าวัด (ประตูโขง) ที่พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้สร้างเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 3 เศียร ที่มีขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) มีความเชื่อดังที่โบราณว่าไว้ คือ “ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ใครที่ได้ลอดท้องช้างจะอายุยืนเป็นสิริมงคลต่อตนเอง” อีกทั้งพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ยังได้ตัดถนนทางเข้าด้านหน้าวัด สร้างและปรับปรุงห้องน้ำห้องสุขาให้เพียงพอกับชาวบ้านญาติโยมที่มาร่วมทำบุญในงานเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงการสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีรูปสัตว์นานาชาติล้อมรอบบริเวณวัด ตลอดจนปรับปรุงสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ และพื้นที่ภายในวัดทั้งหมดให้เหมาะสม เป็นระเบียบ เป็นสัดส่วน สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สมกับเป็นวัดสายปฏิบัติและสถานที่บำเพ็ญบุญ เป็นที่พึ่งพิงด้านจิตใจแก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล)
พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ถือเป็นพระอริยสงฆ์ที่ญาติโยมและประชาชนทั่วไปให้ความเลื่อมใสศรัทธาและด้วยจริยวัตรปฏิบัติอันงดงามของท่านทำให้เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาจากพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์อีกด้วย ถือเป็นอานิสงส์ที่ได้จากการที่พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้สอนศิษยานุศิษย์ทุกครั้งในการทำสมาธิภาวนา นอกจากคุณบิดามารดาและครูบาอาจารย์แล้ว ให้อุทิศส่วนกุศลถวายแด่ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทุกครั้งตลอดมา โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร ที่ทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติอันงดงามของพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ได้เสด็จมานมัสการท่านที่วัดสระประสานสุข เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2542 เวลา 17.00 น. และทรงเสด็จครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2545 เวลา 18.00 น. นอกจากนั้นแล้วพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) ยังเป็นที่เคารพเลื่อมใสของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) จึงถือเป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านจังหวัดอุบลราชธานี และคนไทยทั้งแผ่นดินเลื่อมใส เคารพศรัทธาและกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ
พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) มรณภาพ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2547 เวลา 11.45 น. สิริรวมอายุ 95 ปี 3 เดือน 9 วัน พรรษา 74 แต่ร่างของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้าไปกราบไหว้ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดสระประสานสุข ในวันที่ 24 มกราคม 2559 ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จพระดำเนินในการพระราชทานเพลิงศพ
ที่ตั้ง วัดสระประสานสุข
บ้านนาเมือง ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัดภูมิศาสตร์ วัดสระประสานสุข
15.262170, 104.873740
บรรณานุกรม
วัดสระประสานสุข. (2559). อนุสรณ์งานออกเมรุพระราชทานเพลิงสรีระสังขารพระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล). อุบลราชธานี: อุบลกิจออฟเซทการพิมพ์.