เสียงและบทสวดสู่ขวัญผูกแขน โดย นายสำลี ศรีอนันต์
ศรี ศรี สิทธิพระพร บวรประเสริฐฝ้ายแก้วเกิดมุงคุล ปุนลงมาตกแต่ง กวัดอิ้วแกว่งกงหลา พัดออกมาเป็นหลอดถอดออกมาเป็นปุย ถุยออกมาเป็นเส้น เส้นและยี่พันคำ เส้นหนึ่งดำใสส่อง เป็นดั่งมุกแก้วส่องใส่แสง ฝ้ายของแพงอันล้ำเลิศ ฝ้ายแก้วเกิดเมืองสวรรค์ ปั่นลงมา 3 ฮอบ ครอบแล้วจึงได้ผูกแขนหลาน ว่ามาเยอขวัญเอย
ขวัญเจ้าไปมุดน้ำสระใหญ่กินปลา ขวัญเจ้าไปอยู่นาทุ่งหลวงกินข้าว ขวัญเจ้าไปนั่งเล้าดอมหมู่ผีตาย ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้ มาเยอขวัญเอย
มาเข้าคิงเจ้าอย่าได้เหม็นสาบ มาเข้าคาบเจ้าอย่าได้เหม็นกุย ขวัญดับให้มาอยู่ตับแดงรอบ ขวัญปอดให้มาอยู่ปอดแดงใส ขวัญหัวใจให้มาอยู่หัวใจอย่าได้เศร้า มีลูกเต้าให้แผ่หลาย มีลูกหยิงลูกชายก็ให้ใหญ่ยอยกใส่กินเมือง ขวัญบุญเฮืองบ่อน้อย ให้เจ้าได้ข่อยแม่นเหลือหลาย มาฮอดกลางไฮ่เจ้าอย่าได้ซ้นป่าคา มาฮอดกลางนาเจ้าอย่าได้ซ้นกอข้าว มาฮอดเหง้าไม้เจ้าอย่าได้ทอดหัวนอน ให้เจ้ามาอยู่เฮือนพื้นแป้นหญ้าแฝกมุงหนา ให้เจ้ามาอยู่เฮือนพื้นแป้นหญ้าคามุงถี่ ฝนตกเจ้าอย่าได้ดุ่งไปหน้า ฟ้าฮ้องเจ้าอย่าได้ดุ่งไปไกล ก้อนเส้าไปเจ้าจึงไป คีไฟคั่วเจ้าจ่งคั่ว ลุกแต่ป่ามาเฮือน ลุกแต่สวนมาบ้าน ขี้คร้านให้เจ้านอนมีแฮง ขิงแดงป่งเป็นยอดเจ้าอย่าหนีเนอ กระฮอกป่งเป็นเขาเจ้าอย่าหนีเนอ หมากกระเลาป่งหุ้มกันเจ้าอย่าหนีเนอ ขวัญเกศเกล้าให้เจ้าใส่กระโจมคำ ให้เจ้างำลงมาเหลี่ยมหลาก ขวัญปากให้เจ้าเสพพาดฆ้องต้อยตี่สีซอ ขวัญคอให้เจ้าถือปี่แก้ว มาฮอดแล้วให้เจ้าอยู่ศรีสวัสดิ์ จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พลังฯ”
หมายเหตุ : บทสู่ขวัญอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอพราหมณ์สวด อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอพราหมณ์แต่ละคน