ฟังลำกลอนสั้น นิทานรวม โดย หมอลำฤทธิ์ ไกยกิจ และ หมอลำสว่าง เชื้อหงษ์
กลอนเดินนิทานรวม
จักกล่าวเรื่องปรางค์ก่อนนิทาน เอาเด้อพ่อสิใด้เดืองกลอนสารบ่อนโคดมใช้ มีอยู่ในภูมิพื้นนิทานเขาเทศ ตามแต่สังเกตพ้อเที่ยวใช้ชาติสิมา ลางเทื่อเกิดเป็นม้าทุกสิ่งระเมยหมี เป็นชะนีทางโตนไต่คอนลิงจ้อน เป็นวานอนติงเล่นเนาว์ไพรแถมค่าง ขึ้นผากโกกฮ้องเวรต้องต่อยตำ ทุกข์ยากล้ำกระบ่ท่อสินชัยนำเอาอาผ่าลูลงค้อย จักสิวอยนำหล้าสุมนต์ทราอาหมิ่ง กุมพันธ์อยากกล่อมกิ้งจึงพาน้องด่วนหนี ท้าวป่นปี้ขึ้นขี่สังข์ทอง ทายศรศิลโก่งธนูยิงแม้น สีโหท้าวกุลชะโลช้างใหญ่ใผกะสู้บ่ใด้แฮงกล้าเก่งเกิน
หลายชั่วเยิ้นแต่เที่ยวถ่องนำหา เป็นเวลาหลายปีจั่งข่อยนำมาใด้ สินชัยท้าวสังข์ทองลอยหล่อง พร้อมทั้งสามพี่น้องไปคุมฆ่ายักษ์ตาย ยักษ์โหดฮายโตใหญ่กุมพันธ์ สันดานยักษ์สิบ่ฟังใผเว้า สินชัยท้าวยิงสรย้อนใส่ กุมพันธ์ตายอยู่บ้านหห้องแห่งมัน ครบหนึ่งนั้นท้าวชื่อสีทน มะโนราบินบนต่าวคืนเมือบ้าน สีทนต้านมาถึงถามแม่ ว่ามะโนนาจน้องนางหล้าอยู่ใส แม่แก่นไท้ค้านตอบสีทน ว่ามโนรากลับต่าวคืนเมือบ้าน บักสีทนท้าวขอลาอวนองค์ แม่ถือแพรแดงแหล่ ๆ พอสิใด้ห่มหนาว ถึงคราวมะโนราจำจาก ใครหนอให้ภาคจากท้าวสีทน จะตามน้องสักกี่ปีกีหนกรรมเวรท้าวสีทนจะไม่สนใครเลย สีทนเอ้ยผลกรรมนำจ่อง
มะโนรานาจน้องสิไปแท้บ่อนใด้ ปากบ่อได้ให้จ่มนำหามะโนราบินบน ท้าวสีทนเดินดินเข้าใด้บ่มีฮู้ อดสาสู้บุ๊ดงพงค์ป่า มีคณาหมู่เนื้อเสือช้างระหว่างดง หลายคดโค้งเป็นโต่งภูผา เอาคณาแนวสัตว์เป็นเผื่อนเดิน คราวเยิ้น เดินหลายมื้อแต่ถือแพรหม่นป่า จึงได้พ้อพบหน้าฤษีเจ้าอยู่ไพร ส่วนมะโนนี้ละแม่นฝากไว้ผ่าผ่อนแพรสะใบทังวงค์แหวนอยู่นำฤษีเจ้า ว่านั้นแหล่วอย่าให้สีทนท้าวตามนางเด้อพ่อ หากแม่นท่านพบพ้อฤษีเจ้าบอกแน่เด้อ พ่อฤษีท่านจนว่านั้งเถื้อเว้าต่อสีทน ให้ท้าวกลับคืนเมืออย่าดุ่งตามใกลเยิ้น ภูเงินฟุ้นทางไกรแสนหย่าน ท้าวสีทนกล่าวต่านแสนสิห้ามกะบ่ฟัง หยั่ง ๆ เว้าวอนพ่อพระฤษี ขอฤทธิ์ธีศักดิ์ดาสิดุ่งนำ ตามน้อง เผิ่นกะลองเอาให้บักนาวสีผ้าห่อ เสกมนต์ยำใส่ให้พาท้าวกะจั่งไป ผมเสียใจจะกราบลาหลวงพ่อ
เวลาน้อยไม่พอผมจะขอลาไป เมืองภูเงินนั้นจะอยู่แห่งไหนจะอยู่ใกล้หรือไกลขอกราบหว่ายลงสามที มะนาวสีของดีหลวงพ่อ ถ้ามีเหตุอะไรหนอให้ค้วงมะนาวไป น้ำกัดเหล็กกัดทองอยู่ที่ไหนจะโยนทิ้งมะนาวไปคงไปได้ตามสะเบย เลยไปจ้อยบ่มีถอยหม่นป่า คือจั่งการะเกษท้าวหลาวต้องต่อยตำ ทุกข์ยากล้ำนำหมิ่งมะลีจันทร์ อาสนัยพาหันขี่เหินเดินฟ้า มาวนเข้าในหอปรางค์ปราสาท เลยตำหลาวฮ่างใว้ตายพร้อมพร่ำกัน ทุกข์เถื่อนั้นยังบ่ท่อกาดำพ่อเผิ่นจำลอยแพรแค่วังเวินกว้าง คนแซวท้วนำกาดำรูป ก่ำบ่อปากนำแม่ท้าวเขาจำให้หล่องแพร แต่ทุกข์ยากแท้ยังได้ฮ่วมนางลุน เพราะว่าบุญมีหลายพ่อพระอินทร์เล็งเลี้ยง ยังใด้นอนเฮียงน้องนางลุนคนส่ง ถอดคาบโสมฮูบหน้าโสดปานแต้มแต่งเอา พ่อแม่เฒ่าชุบใหม่ได้เป็นสาวแปลงเวียงวังดั่งทองทาไว้สิไปใส่ฟุ้งแนวคนบุญมาเกิด ประเสริฐสุดท่อนั้นปันให้นั่งเมือง จักกล่าวเรื่องทังสีจำปา เขาเอาหมามาแท้นเปรี่ยนตางคนใว้ แพรปิดหน้าให้ปิดตาบ่เห็นฮุ่ง ตอนประสูติลูกน้องเสียงให้หากแม่นคน อีอัคคีนี้มันคนบาปล้นมันเอาใส่ลงให้ไหลขึ้นทางเหนือสิบ่ลงทางใต้ ไหลไปค้างจำสวนยายหญ่ายายหญ่าเฒ่าเห็นแล้วจั่งเอา สีแจ่มเจ้าหญ่าเลี้ยงใหญ่หลายปี นางอัคคีเลยเอาหมู่ขนมสมง้วนกินแล้วพวนในท้อง กองกันตายอยู่ ยายไปเมืองบ่ฮู้มาแล้วกะจั่งเห็น ตายย้อนเล่นคือดั่งขุลุ มีขุนสางผู้มาหวงก้าง จนเป็นทางเที่ยวเล่นแล้งงายบ่ได้ว่า แม่จันทร์ทราบีบบี้ เทวีนั้นผู้ด่าเถียง ผิดกันเด้อผิดกันย้อนบักเกี้ยงแก่สองเผิ่นถือภา ลูกออกมาเห็นกันเกิดมักแฮงจาแต้ง จนได้แทงคอฆ่าโตตายคิดบ่ถั่ง อั้วกะใหมผูกค้องหอยข้าจองคอ ฮัดบ้วงกะตายบ่มีเหลือ บ่ใด้เป็นผัวเมียคอบแม่ทั้งสองฮ้าย มีหลายเรื่องผาแดงนางไอ่ บุญบั้งไฟ เทื่อนั้นขุ้นเข้าแข่งกัน มีฮอดบั้นกะฮอกด่อนแขนขอ พุยคนกินพร่ำมวนตายม้วน ดินควันกลุ้มดินพังหลุบหล่ม ผาแดงจ่มมาแต่พุ้นพังคีท้าวผู้ใส่กรรม
หมายเหตุ : กลอนลำอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอลำร้อง อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอลำแต่ละคน
หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย) : นายฤทธิ์ ไกยกิจ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง) : นายสว่าง เชื้อหงส์ อำเภอสิรินธรจังหวัดอุบลราชธานี