ฟังลำกลอนนิทาน เรื่อง ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ โดย หมอลำบุญถนอม เสนาพันธ์ และหมอลำโสภา โพธารินทร์
ทานก่องข้าวน้อยฆ่าแม่
เอาละฮ่านี้ จงตามเรื่องนิทานเดิมพื้นเก่า เป็นนิทานแต่เค้าคนเว้าบ่ถอย เรื่องธาตุก่องข้าวน้อยตั้งอยู่ยโสธร ลำเป็นกลอนนิทานกล่าวกันโดยย่อ ไผผู้ไปยังพ้อยโสธรฟ้าหย่อน อนุสรณ์ธาตุตั้งยังหมั่นอยู่ดี บ้านตาดทองบอกชี้ทางผ่านไปมา อยู่ท่งนาทางเหนือบ่ไกลแนมพ้อ หรือสิงอไปเล่นชมดูก็หากง่าย มีลูกศรและป้ายไปชมเล่นอ่านเอา สายอุบลยโสธรนั้นเจ้า ประมาณเขิ่งกิโลเมตร ไปเบิ่งฮอยบักทองเฮ็ดหามารดาไท้ พอเป็นแนวเขียนไว้เตือนใจคนถ่อย มีก่องข้าวน้อยแขนห้อยอยู่ปลาย คนชั่วฮ้ายฆ่าแม่โตเอ็ง บ่ได้เกรงกรรมเวรเหล่าลืมคุณเค้า บักทองหิวยังข้าวแฮงทั้งเดียด เคียดว่าแม่แจ่มเจ้า เอาข้าวไปส่งสวย นี่ละพ่อให้ฟังเอาไว้ด้วย ไปเว้าสู่หลานเหลน ธาตุนี้เป็นอุทาหรณ์ก่อนคนหลายรุ่น เผิ่นได้ปุนแปรงไว้นมนานการแก่ ธาตุบักทองฆ่าแม่ เป็นนิทานลึกล้ำคำเว้าเผิ่นสอน เพื่อเป็นภาพสะท้อนให้ผ่อนเบาหนัก ลูกบ่จักคุณโนแม่โตพอดี่ เผิ่นว่าโมโหนี้พาโตตกต่ำ บักทองทำชั่วช้าหลงฆ่าแม่โต ฆ่าแล้วจั่งอ่าวโอ้สำนึกบุญกรรม จั่งได้ทำกลางนาพักมารดาไท้ ไผสนใจนิทานค้ำคติธรรมล้ำค่า ฆ่าบิดามารดาบ่เห็นหน้าพระเจ้าองค์ล้ำหน่อธรรม ตกนรกอีกซ้ำหน่วยสี่โลกัน เป็นอนันตะริยะอ่านแปทั้งห้า คือบักทองมันฆ่ามารดาบ่พ้นหง่าย ตกลงสู่อบายตกลงไปสู่พื้นไฟไหม้หน่วยตา
(เพลง) ยโสธรนั้นเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองลูกฆ่าแม่อยู่กลางทุ่งนา ประวัติศาสตร์หลายปีมีมา เชิญไปทัศนาศึกษาลองดู ความหิวทำให้ทองเป็นเหตุ ใจร้ายกว่าเปรตยักษ์ร้ายพระยามาร อุตส่าห์พูดจาอ่อนหวานบักทองไม่ต้องการฟังคำอ้อนวอน . . .
(ย่าว) มา ๆ ก่อนมากินแม่ว่า บ่ทันสวยดอกหล้ามาแม้แม่มา ให้มากินก่อนหล้าลูกแม่คำแพง เจ้าหิวแฮงบ่คำจั่งได้ทำใจฮ้าย แม่กะหลายแนวหยุ่งหมูหมาเป็นไก่ ทั่งคี่ไฟหม้อข้าว ทั่งมอนผองมอญ ลงเฮือนแล้วแม่กะจ้อนฟ้าวแล่นปนกัน ทั้งยันทั้งลิวบ่าพายทั้งหิ้ว ย้านลูกหิวยังข้าวคณิงนำลูกแม่ โอเด้ โอนอลูกเอ่ยเด้อคำเด้อ เด๋อ ๆ คำเด่อ ตกคันแทผ่องล้มตีนซ้ำก่ำเขียว แม่ฟ้าวลัดเล่งเลี้ยวย่านลูกแนมทาง ตะวันพลางพอสวยโพดแฮงเลยใจฮ้าย…
(ลงยาวน้อย) อธิบายให้มันแจ้งในนิทานอาจารย์แต่ง ลำแสดงต่อเรื่องให้มันเข้าบ่อนขัน แม่มาฮอดแล้วนั้นเอิ้นใส่ลูกไววา (เว้า) ทองเอยทองปดแอกปดไถมากินข้าวก่อนลูกมา มาลูกมาปดไถให้ผูกควายเถิกเอาไว้ ตะวันใสสวยแล้วให้มาเซากินข้าวก่อน แม่กะว่อน ๆ เอิ้นคำค้องย่างไป พักเข้าอยู่ห่มไม้ใกล้หว่างบักทองไถนั่งลงในแนวกินผ่องเหลียวทางเอิ้น ว่ามาเทิน ๆ ให้มากินสาลูกแม่ บักทองแลเบิ่งแล้วทั้งใจฮ้ายแล้วสั่นหัว ออกปากด่าอีฮ่าขั้วแม่ชั่วแม่อัปรี แม่บ่ดีแม่จองหองบอกให้ตายกะปานนั้น บักทองเห็นกัดแข้วเสียงดังอยู่ก๊อด ๆ จนตาสวดควายอีตู้บักทองฮ้ายผ่องตี ปดไถแล้วบักทองย่างทีลีมาหาแม่ทำโมโหเสียงโว ๆ บักทองเถียงแม่กะออยอย่าเป็นฮ้าย สวยพองายจนเห็นตึงมึงมาหยังบักทองว่า ก่องข้าวมึงเอามาก่องกะก่องน้อย ๆ กินได้บ่อิ่มพุง แม่เลยว่าลูกแม่เอย ก่องข้าวน้อยต้อนแต้นมันแหน่นในตัวละหล้า กินลงไปพอมีแฮงผ่อนเบาบรรเทาไว้ แม่สิเมื่อเอาให้คันทองลูกบ่อิ่ม ๆ ทองแห่งตึ่มแห่งใจเต้นอยู่บ่ถอย คัวเอาได้แอกน้อยย่างเล่งเข้ามาหา แม่ว่าเซา ๆ นากล่าววอนขอไว้ เห็นลูกชายใจฮ้าย ยายชรานั่งคุเค่า ยกบุญคุณขึ้นเว้าบักทองเจ้ากะบ่ฟัง เว้ามาตั้งแต่ครั้งแม่ท้องใหญ่ถือพา พ่อตายป๋าเป็นกำพลอยแม่อยู่ไฟได้สามมื้อ ตั้งแต่ถือพาเจ้ากะพอแฮงแม่หนักหน่วงทองเอย แม่นั้นหวงฮักเจ้าได้กินข้าวบ่ายเกลือ แม่ถนอมกล่อมเกือชิ้นจี่ปลาเผา ทองบ่เอาหูฟังแห่งตึมความใจฮ้าย พอปานไฟควนกุ้มมีคนเอาฝอยใส่ อ้างบุญคุณแนวใด๋กะบ่ส่ำบ่อ้าง บักทองสิฆ่าอย่างเดียว บักทองเหลียวดูหน้ามารดาขอไว้ก่อน เอาแอกน้อยตีงอนแม่เลยชักดั้น ๆ มาตายจ้อยอยู่ท่งนา มาตายช้ำแม่นบ่คืนผู้ฟังเอย… ละนา
หมายเหตุ : กลอนลำอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอลำร้อง อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอลำแต่ละคน
หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย) : นายบุญถนอม เสนาพันธ์ อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี
หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง) : นางโสภา โพธารินทร์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี