เสียงและบทแหล่สอนเมีย โดย นายทนงศักดิ์ ดวงศรี

“เผิ่นว่าเป็นเมียนี่ ให้ซาผัวคืองัวคู่ นางเอ๊ย ผัวอยู่ขวาเมียอยู่ซ้าย บาดยามย้ายให้เกิ่งกัน เป็นเมียขวัญผัวแก้วแนวได๋ดีให้ประกอบ แนวได๋ชอบถืกต้องครองเค้าให้หมั่นทำ ให้เจ้าหย่ำแยงย้านเอาผัวเป็นใหญ่ ครองผัวเมียเพิ่นกล่าวไว้จำหมั่นอย่าชะหลง

ข้อ 1 ปิยะวาจา ข้อนี้เจ้าอย่าปากโป้ง ๆ เว้าส่งเสียงแข็ง ให้เจ้าแพงทางเสียงกล่าวจาให้หวานจ้อย หวานคือตาลคืออ้อยนวลหูให้เว้าหม่วน ๆ ควรบ่ควรให้เจ้าอดปากไว้อย่าโวเว่ากล่าวสะหาว

ข้อ 2 โภชน สาธุ ถึงเวลากินข้าวให้ผัวแพงกินก่อน ฝูงหมู่ชามและซ้อนของใช้เครื่องครัว ตัวหากเป็นแม่บ้านการแต่งอาหาร เทิงของหวานของคาวเครื่องปุงหุงต้ม ทำประสมกันเข้า ของหวานให้อร่อย กินให้นัวแซบซ้อยแกงก้อยจี่เผา คำโบราณเพิ่นเว้าแกงแซบผัวฮัก ปลายจวักเป็นเสน่ห์ผูกพันผัวไว้ ไปทำงานมาแล้วแนวกินดีกะหายเหนื่อย มาเมื่อย ๆ ฮ้อน ๆ ใจฮ้ายกะเหล่าหาย

ข้อ 3 นินทา คาวะโร สามีโกปูชะนังฟั่งไว้ในใจคะนิงฮ่ำถึงยามแลงยามค่ำ ให้เจ้าหักดอกไม้บูชาไท้มิ่งผัว ตัวของหล่อนให้นอนลุนเด้อแก้วกลิ่น เอาตีนผัวยกใส่เกล้าผะอวนเจ้าจังค่อยนอน หมอนของเจ้าให้หลุดผัวลงคืบหนึ่ง เจ้าอย่าลวนทะลึ่งนอนซ้อนให้ผ่อนตาม ยามผัวเชยชมซ้อนเสน่หาให้ฮู้ฮ่อมนางเอ๋ย บาดหาได้ลูกน้อยเป็นคนฮู้ได้เพิ่งบุญ ได้มาคูณมาค้ำผลานำสิเลี้ยงง่าย มีลูกสาวลูกชาย มีแต่คนฮู้ ๆ บุญยู้ได้เพิ่งพาผลามีเอ้ย

ข้อ 4 กักขะพัววาทัง วาจีกำมังนั้น ยามเจ้าวาทีต้านคอมผัวให้เว้าหม่วน เจ้าอย่าลวนทลึ่งตีตื้นบ่ตื่นกลัว เผิ่นว่าผัวเมียนี่ กูมึงบ่ให้ว่า มีแต่ข่อยและเจ้าตะผองเฒ่าชั่วชิวัง ให้มีจิตต่อตั้งสร้างก่อแต่ความดี ปฏิบัติสามีอย่าล่วงเกินเลินเล่อ อย่าสะเผลอความเว่าแนวเอาโตตกต่ำ คำบ่ดีอย่าสะเว่ามันสิเศร้าเก่าศรีผลามีเอ้ย”

หมายเหตุ : บทสู่ขวัญอาจไม่ตรงกับเสียงที่หมอพราหมณ์สวด อาจเปลี่ยนไปตามลีลาของหมอพราหมณ์แต่ละคน