ฟังลำล่องหัวลม โดย หมอลำสินสมุทร รัตนมูล และหมอลำลำใย พรมสำลี

กลอนลำล่องหัวลม

ละมองเห็นลมพานฟ้าเหมันตาฟ้าเอิ้นสั่ง น้ำสิขาดเขินวังฝูงหมู่ปลาใหญ่น้อยสิลอยเข้าว่าใส่ไซออกพรรษาแล้วได้เจ้าหัวบ่าวสิลาสึกในหัวใจกำลังนึกคิดอยากมีสองซ้อนหัวลมวอนพานไม้ไบตองใฮเปื้อง แล้วปิ่นภูมลินหมู่เผิ่งชมกั้วกิ่นละออง ฟ้งเสียงฟ้าฮ่ำฮ้องสิเอิ้นสั่งหัวกอยลมพัดสีวอย ๆ ฝูงหมู่ปูปลาหอยสีห่วนหาฮูซ้นฝนสิลาฮวงข้าวเข็งขาวสิลงหลี่ ลมพัดสีหวี่ ๆ นกขี่ถี่ฮ้องถื๋ดถึ้งตาสิ่งใส่กะปูฤดูฝนสิเบิ๋ดแล้วฤดูหนาวสิมาต่อ ยากใจเด้คุณพ่อผู้บ่มีคู่ช้อนสินอนซ้นแต่สุ่มเฟืองข้าวดอเหลือแก่กล้าสิลงเกี่ยวนาโนนหอบหนีฝนลินฮำฝ่อนข้าวดอซุมก่อไว้หนาวใน ๆ ฝนรินย้อยแกมหัวลมมาหย่าว ๆ พวกผู้สาวผู้บ่าวพากันคิอฮอดซู้ยามสิเข้าบ่อนนอนไผผู้มีคู่ซ้อนกะไคแน่พอทุเลาหัวลมหนาวมาเยือนหากหม่นหมองกายเนื้อหาทั้งแพรทั้งเสื้อมาคุมกะบ่อุ่นหัวลมหมุนพัดพัดจั้น ๆ หนาวสบั้นอยู่บ่เป็นยามกางเว็นกะคุมผ้ากางคืนมาได้แต่จ่มหัวมาได้แต่ขดขี่คู้คะณิงชู้ผู้อยู่ไกลน้ำหมอกเหือยหยาดไม้ลมโบกโบยสบัด ฟังเสียงลมโชยพัดปั่นวีขวาช้าใจคะณิงนำอ้ายชายผู้ดีชู้เผิ่นเจ้าผู้เปิ่นเหวิ่นแก้มสิหัวแย้มใส่ไผก้อนเมฆแล่นล้าย ๆ ไหลหล่องไปตามลมสมหัวใจพออยากไหลไปตามหมู่เมฆกั้น เหลียวเห็นจันทร์บนฟ้าเทิ้งนภาใสเด่น คืนจันทร์เพ็ญคิดเห็นแต่หน้าอ้ายชายชู้ผู้อยู่ไกลฟ้าฮ้องสั่งป่าไม้สิไกลป่าหิมพานต์ดอกมันบานหอมหวรหมู้แมลงชมช้อน หัวมันเทียนมันอ้อนฝนสิลาฟ้าสิสั่งลมพัด สีหวั่ง ๆ คือสิจั้งอยู่บ่ไหว ฟ้าฮ้องสั่งป่าไม้สิไลท่งนาทามนกจิบเฟืองงอยปายขามส่องหาแมงไม้หนาวใน ๆ หัวลมต้องปลาลาหนองสิลงอ่าวหัวลมพัดหย่าว ๆ หนาวใน ๆ คิดชู้ยามสิเข้าแม่นบ่อนนอน แสนอาวรณ์

หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย): นายสินสมุทร รัตนมูล อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี

หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง): นางลำไย พรมสำลี อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี