ฟังลำกลอนสมัยไทยยุคใหม่ โดย หมอลำสินสมุทร รัตนมูล และหมอลำลำใย พรมสำลี

กลอนสมัยไทยยุคใหม่

ละแม่นว่าเด้อนายฟังเด้อไทสมัยไทยยุคใหม่สมัยไทยก้าวหน้าการค้าและขายพวกเอื้อยอ้ายเห็นบ่อาอาวคาวสมัยโบราณเผิ่นบ่มีการค้า มีปูปลาบ่มีขายมีซื้อขอกันกินสื่อ ๆ มันบ่คือสู่มื้อสมัยนี้ต่างหลังปลาข่อกั้งกบเขียดปูหอยคอยแต่เอามาขายก่ายกองนองล้นผักกระโดนผักติ้ว ผักกะเดากะมีค่า ผักกะแยงตามนามีราคาค่าซื้อคือด้ามดั่งกัน กุ้งขี่ฝอยหมู่นั้นกะมีค่าเป็นเงินทันสมัยเหลือเกินรถรามีใช้ หาทางไกลทางใกล้สิไปใสมาใสแทบสิบ่ได้หย่าง ทางไปนาขี่รถไปกะได้สมัยม้าป่งเขา พวกหมู่เจ้าฟังเบิ่งปัญหาการทำนาทำสวนรถรามีใช้ ทันสมัยเหลือล้ำทำนาทำใฮ่เอกอี่แต๊ก มาไถลืมสมัยปู่เฒ่าเฮาใช้แต่ควาย รถลาแล่นย้วย ๆ อยู่นำท่งนำนาอีกบ่เหิงสิบ่มีปูปลาแผ่พันธ์ุมาบ้อนไปหาลำหาส่อนมาขายทุกอย่าง กบเขียดต่าง ๆ สิได้วาดรูปไว้หลานน้อยสิบ่เห็นบ้อ แม่นฉันเว้าเล่นมันเป็นเรื่องความจริงถือหวิงหากินสิบ่มีละเด้ป้าย้อนปูปลามันน้อยหอยซิวอึดอยากความลำหากินกันบ่ได้พากันใช้แต่สตางค์ทุกอย่างล้วนมีตั้งแต่เป็นเงิน สิไปขอกินเชิญบ่มีเดียวนี้ มันบ่คือคาวสมัยหลังปู่ย่าขั่นมีปูมีปลาขอกันกินกะได้เฮือนใกล้แบ่งปัน ยุคนี้นั้นบ่มีดอกคุณยาย มีแต่ขายกับขายข่อยบ่ปันไผ แล้วมันบ่มีสาแหล่วสิขอกันง่าย ๆ รุ่นสมัยคุณยายเผิ่นบ่ขายบ่ซื้อปันให้ง่ายดาย

หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย): นายสินสมุทร รัตนมูล อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี

หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง): นางลำไย พรมสำลี อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี