ฟังลำกลอนฮีตสิบสอง โดย หมอลำใบ ไกยรัตน์ และหมอลำสำเภา พรมสวัสดิ์

กลอนฮีตสิบสอง

เดือนอ้าย ตกฤดูเดือนอ้ายสายลมมาหนาวหน่วง เดือนนี้ตกหว่างช่วงสังโฆเจ้าเผิยเข้ากรรม เฮามาพากันค้ำทำบุญตักบาตร ปริวาสส่อยยู่ซู้ค้ำศาสนา

เดือนยี่ ฮอดเดือนสองอย่างช้าข้าวใหม่ปลามัน ให้เฮามาโฮมกัน แต่งบุญประทายขาว เชิญให้มาโฮมเต้าอย่าพากันขี่ถี่ บุญคูณลานตั้งแต่กี้มาถ่อนให้รักษา

เดือนสาม ฮอดเดือนสามท้องฟ้าปลอดโปร่งสดใส ไปทางได๋เห็นแต่คนใจบุญสั่วแซวเต็มคุ้ม เหลียวเห็นซุมสาวนอยพากันปั้นข้าวจี่ เฮือนละสี่ห้าปั้นพอได้ดอกใส่บุญผ่องกะบีบข้าวปุ้นตกแต่งอาหาร  มีเทิงหวานเทิงคาว หนุ่มสาวโฮมต้อม เดือนสี่ ให้คอยซอมไปข้าหน้าเดือนสิมา

เดือนสี่ หลังจากบุญข้าวจี่สิมีบุญผเวสเจ้าสิเฮาได้แต่งทาน ขวงเขตบ้านย่านถิ่นดินอีสาน สำราญเหลือหลายหม่วนมิงกะเลยฟ้อนตกหว่างตอนคนตั้งใจสิวอนหวี่ ตอนกัญหาชาลีสิพรากพ่อแม่แก้ว คนสิให้นังฟังมีเพียงปีละครั้งให้เฮาส่อยกันสาน  จัดเป็นงานประเพณีให้หมู่รุนหลังฮู้

เดือนห้า ตกฤดูเดือนห้าสายลมบ่มาผ่าน  เห็นดอกจานเผิ่นแย้มบานเย้ยถ่งนา เดือนนี้บ่ได้ช้าปีใหม่มาเถิง ให้พากันทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ เต่าสิถามมาพุ่นคนใจบุญสิมาปล่อย นกสิงอยหง่าไม้คอยถ่าตั้งแต่ฝน เดือนนี้หม่วนจ้น ๆ คนกะหลั่งมาหลาย หาเอาทรายมากองก่อเจดีย์ไว้

เดือนหก ฮอดเดือนหกเสียงฟ้าไขประตูฮองบอกข่าวเมืองคน มีแต่ฝนกับลมส่งเสียงกึ๊กก้อง สายตามองเห็นแล้วในใจกะหากหม่วน เขียดอีโม่ลำเกี้ยวใสผู้สาว เห็นปลาขาวปลาซิวปลานิลปลากะเดิด แล่นหยอกล้อกันหลากหลาย เดือนนี้เบิ๊ดโทษฮายบ่มีเรื่องเลอหลัง อัสดงดวงอาทิตย์ลับลงปลายไม้ เห็นแต่สีใสเน้นวันเพ็ญเดือนสิบห้าค่ำ วิสาขาเลิศล้ำชาวบ้านบ่อยู่เฉย ไผกะยิ้มเป้ย ๆ ลงวัดเวียนเทียน เดือนได้เวียนมาเถิงนพคุณคองเค้า

เดือนเจ็ด เดือนเจ็ดเผาควมฮวยอันตรายบ่มาผ่าน นิมนต์พระขึ้นบ้านเล็งเป้าเข้าใสธรรมบุญสิมาส่อยค่ำซูส่งราศี   บารมีผลทานสิไล่มารเลยพ้น ตั้งแต่ดนเฮาได้เคยได้ยินแต่ปางก่อน บุญซำฮะสละความเดือดฮ้อนเมืองบ้านสิสุมเย็น

เดือนแปด จันทร์เพ็ญแจ้งทองแสงใสสง่า  เดือนแปดมาฮอดแล้วสิแววขึ้นหลื่นหลัง เดือนนี้สงฆ์เผิ้นยั้งเข้าอยู่จำพรรษา ภาวนาอบรมข่มใจสู่แลงเช้า เฮามาพากันเข้าทำบุญพ่อมผ่ำ ถวายผ้าอาบน้ำให้ญาท่านเผิ่นใช้สอย เดือนแปดคล้อยเห็นลมถั่งใบเสียว  เหลียวเห็นฝูงปลาขาวแล่นลงโฮมต้อน กบเผิ่นนอนคอยถ่าฝนมาสิได้หม่วน ลงเล่นน่ามโฮฮองสั่งแซว

เดือนเก้า เดือนเก้ามาฮอดแล้วบ้านป่าขาดอน เห็นนกเขางอยคอนสงเสียงหาชู้ เถิงฤดูเดือนเก้าอีสานเฮาท้องถิ่น  คงสิเคยได้ยินประดับดินกินก้อนทานทอกน้อมถวาย พ้นจากมานหยาบฮ่ายพากันอยู่เป็นสุข บ่มีโพยภัยทุกข์ผ่านกลายมาใกล้ มีแต่ใสสดชื่นคืนวันแสนหม่วน ต่างกะชวนพี่น้องลงเต้าแตงทาน

เดือนสิบ ขวงเขตบ้านย่านป่านาหวาย กลายมาเถิงเดือนสิบสิก่นมันมาต้ม ผ่องกะงมกอข้าวหาเทากำลังอ่อน ผ่องกะคอนต่าน้อยลงห้วยห่อมนา เดือนนี้บ่อได้ช้าตกแต่งทานถง ข้าวสากลงไปวัดให้หมู่สังโฆเจ้า มีลาบเทาพร้อมกับหมกดักแด้ของดีคั่วจุ๊ดจี่ ซุบบักมี่กะมาพร้อมผ่ำกัน

เดือนสิบเอ็ด เดือนสิบเอ็ดว่านั้นหัวลมอ่วยเชยหนาว ช่วงผูสาวผิวลายฝ่ายชายสิผิวเกลี้ยง ได้ยินเสียงลมต้องก๊กสำสาอยู่เวิ่นเหวิ่น หมาจอกเอิ้นสั่งชู้กะปูม่นแต่ฝั่งหนอง นกแจนแวนออกฮ่องหาคูผสมพันธุ์ ควายบักเถิ๊กตกมันแล่นซนแตต่อพร้าว ฝูงปลาขาวลง โฮมต้อนผู้สาวนอนขี้คร้านตื่น ปลาดุ๊กบื่นค่อนสิแจ้งหันหน้าเข้าใส่หลุม ฟังเสียงฟ้าฮ่องตุ้มเอิ้นสังฤดูฝน ฝูงหมู่คนลงเลาะถ่งนาปลาบ้อน เดิ๊กออนซอนจันทร์แจ้งทอแสงใสสง่า ออกพรรษาห่อเข้าต้มลมล้อแต่หมู่ปลา บัดนี้แหลววัดสิเป็นกำพร้าบ่มีพระสิมานอน มาออนซอนทายกไล่แต่งัวเข้ามาเลี้ยงได้ยินเสียงกลองโย่นวันเพ็ญสิบห้าค่ำ พระสิลาแม่ออกค้ำไตรมาสสิสังลา

เดือนสิบสอง เหลียวขึ้นเบิงท้องฟ้าเห็นแต่ว่าวเดือนสิบสอง ลมคะนองเชยพัดหง่ายมกะเลยม่วน พอสมควรหาผ้ากฐินทานมาทอด ตลอดเดือนหนึ่งพุ่นหาได้ดังประสงค์ หลวงปู่คงไปหาผ้าหลวงตาดีหาน่ามครั่ง หลวงปูสอนนั่งสอดด้ายขัว ซ้ายเข้าส่อยกัน เดี๋ยวนี้ตกหว่างบั้นโลกมันเปลี่ยนเวียนหัว ปัจจุบันโยมเลยเป็นคนเฮ็ดแห่แหนแพนกั้ง ต่างกะหวังเต็มที่เอาความดีบ่ดูหมิ่น บุญกฐินส่อยค้ำมานทอกให้หมู่สงฆ์

หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย) : นายใบ ไกยรัตน์ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ

หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง) : นางสำเภา พรมสวัสดิ์ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ