ฟังลำกลอนสอนวัยทั้งสาม โดย หมอลำวิจิตร อยู่เย็น และหมอลำจรวย แซ่ตั้ง
กลอนสอนวัยทั้งสาม
ฟังเด้อเฒ่าสะราหารพวกนุ่ม ชุ่มหมู่ญาติพี่น้องคณาเนื้อบ่าวสาว ผมสิขอสั่งเจ้าเฒ่าหนุ่มตามวัยไขตามครองประเพณีระเบียบการเมืองบ้าน เดียวนี้การขัดข่องหมองใจทุกท่าพากันตกต่ำช้าบ่ทันเยี่ยมอย่างสมัยบาทนี้ได้สอนสั่งชุมเด้กพากันหวนเห็นคักชั่วดี คีค้อยแนวโตเป้นเด็กน้อยให้จัดการบ้านข่อง ยามมื้อแลงอุ้มน้องนอนเล่นอยู่ชาน ตืนเช้านั้นกะให้มั่นแกมดู๋หาเก็บภูเก็บพริกให่แม่ตามาเคี่ยว อย่าได้เทียวไปเล่นฮามแลงให้แม่ดา คุณบิดาอย่าสิลืมเพิ่นเลี้ยงเฮาได้ใหญ่สูง หนุ่งฮ่มนั้นพ่อแม่เป็นคนปลุก นอนให้จักยามลุกตื่นตามาเช้า ยามตำข้าวเอาฟืนเผาถ่าน อย่าสุเห็นแก่ค้านแนวนั้นบ่ดี เป็นสาวนี้อย่าสิเปรียบคือลิง อย่าได้เสาะคิงเพิรง เคื่องในให่เขาทื้น โตกำลังพวมขึ้นให้แพงเอากระดองเต่า อย่าสุเมาแต่ชู้ งานนั้นเล่าเสีย ทุกช้ำเชื้อพวกผู้บ่าวตาหวาน คอยฟังการอบรมบ่อนผมสอนชี้เป็นชายนี้การงานอย่าตกเตื่องกะมีอยู่แล้วขวัญพร้าเผิ่นแต่งมา อย่าชักช้าไม้เลื่อยให้มีหลายขายเอาเงินนอนคงใส่กระเป๋าเอาไว้อย่าสู่ไปหาเหล่นแสยำตามป่าเห็นเถียงนาแล้วโก้ยนอนเล่นนั้นบ่ดี มีครบนี้ใครกั่วมีทุนอยากทำบุญทำศีลกะงายดีเฮาชื้ออย่าได้ปือลือล้นนอนเว้นให้แม่จ่ม อยากได้ครีมทาผม น้ำมันจันทน์ หมู่แป้งกะยังได้ส่วนตัว สวนและฮั้วสร่อยพ่อหา เฮ็ดให้มันเสร็จในมือส่วนตัวหมดเกี้ยง นันแต่เชียงจารย์ขื้นผู้ได๋ยังเป็นบ่าว ติดหมอลำสิเว้าเป็นข้อสั่งสอนเป็นบ่าวนี้อย่าให้มันเดือดร้อนความนุ่งความถือมือเฮามีหาเฮ็ดบากบันงานจ้างอย่าสุพากันสร้างทำทรงรากกะเตี่ยว ย้านเป็นชายนอนเดี่ยวเขาสิเอิ้นบักดากด้านสาวแส่กะบ่ชม ให่จักกราบจักก้มเคารพย่ำเกรง อย่าไปแขงแฮงพ่านตาเฒ่า เพิ่นว่าเจียมผีเฒ่าเจียมคนกินหากแม่นอย่าได้แสนฮอมดื้อดึงด้านย่านม่นครอง คนเฒ่านี้ปฏิบัติถูกต้องเข่าวัดจำศีล แนวว่าของเหลือกินไปทานมันบาบอย่าสุนุ่งสีนตาบไปวัดไปวา เขาไปปั้นเข่าจี่ คันเข่าจี่บ่ทาน้ำอ้อยเณรน้อยเช็ดน้ำตา เดือนมีนามาเข่าเอาบุญมหาธาต เฮ็ดเข้าปาดเข่าปุ้นเฮามันอยากส่อยกัน สู่มื้อนี้เขาบ่เกี่ยวหาเฮ็ด ซื้อแต่ของสำเร็จตลาดเขามีแล้วเปิดสูแนวแต่หาซื้อหมากเขือเคือเกลือปลาแดกแปลกถั่วคราวกล่อมกี้สมัยนี้ง่ายหลายคุณยาย…ละนา สิ่งที่มันเป็นฮ้ายคนฝายเข่าในเมืองพากันลัยลาเสียไฮนาผาท้าวทางพาดีมีหลายล้นคนเฮาไปถิ่มถิ่นไปหากินรับจ้างอยู่กรุงกว้างบ่ห่วงไผถิ่มแต่หลานกำพร้าให้อยู่กับยาย ขายแรงงานอยู่เมืองกรุงนุ่งส่งยีนจนลืมสิ่น พอผินลินเป็นสาวน้อยกะพลอยไปนำหมู่ อยู่โรงงานสู่หม่องกองกื้อแต่อิสานแถวสมุทรปราการนิคมบางปูหั่นติดกันทั้งสามห่วง ทั้งรถเมย์ รถพ่วงกะมีแล้วส่วนสน ยังกะแตกจน ๆ อยู่ขนส่งหมอชิต รถกะติดคนหนัดเฮือใครใหลย้อย โรงงานพลอยแถวนี้ ชีพีโรงงานไก่ บางกอกน้อย บางกิกใหญ่ บางกะปิ ลาดพร้าว ลาวแหน่นอั่งออบ่เคยเห็นกะพ้อ โรงเถื่อนอัปรีย์ ขายสตรีแลงงานเด็ก ขมขื่นปืนจี้ให้ขายหีขายก้นปนเปลหมดสู่อย่าง สิ่งที่เป็นลูกจ้างให้เฮ้าได้ไตตรอง บ่มีพี่และน้องชีวิตอิสระแม่นสิเป็นหยังมากะบ่มีไผฮู้ คิดเบิ่งเขามีชู้ชูกันบ่ได้แต่ง สตางค์แดงกะบ่ได้ไผสิฮู้เมื่อนำ หลงถลำจนมีท้องสินดองมอบพ่อแม่ บ่มีเฒ่ามีแก่เอากันมาแตพู้น กรุงกว้างบ่หวงไผ โบราณเพิ่นว่าใว้ผิดฮีดครองธรรม สิเอาผัวเอาเมียให้ถามสี่แจบ้านสิต้านชู้ให่ถามสี่แจเมือง สู่มือนี้ผัดบ่ว่าจั่งขั้นคันสิเอาคู่ช้อนบ่ต้องห่วงนำไผ ว่าแต่เขาพอใจแล่นนำคุงบ้าน ไปเทียวงานบวชกันไว้ มอเตอร์ไชค์ขับขี่ไปนำกันที่ลี้แสนสิห้ามกะบ่ฟัง ตามโรงหนังหรือตามร้านสถานใกล้แหล่งท่องเทียว เกี่ยวแขนกันเป็นบ้วงฆ้อง สองเต้าไปหาครูบาให้ถือแพรเบี่ยงโต่งดียวนี้พวกเสือโค่งพวมออกหากินไผบ่รักษาศีลฟังธรรมคำชอบ ต้องประทะกับหอกมวนหมู่หลาวแหลว จำพวกเฒ่าหัวแซบ ฟังเอาให้ถี่ เฒ่ามาแล้วหน้ากะเป็นกี่หวี่กอกวอกคือพรามหาหลักปราบปรามมันกะได้สิแม่น ขึ้นเมืองโคกแล้วแล่นสองขาสามขา บอกเข่าวัดเข่าวาเจ็บตีนพร้อมบาท คนเดียวนี้มีมากหลายตั๋วผมเห็น
หมอลำกลอน (ฝ่ายชาย): นายวิจิตร อยู่เย็น อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี
หมอลำกลอน (ฝ่ายหญิง): นางจรวย แซ่ตั้ง อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี