คราวหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับพักอาศัยอยู่ที่ต้นอชปาลนิโครธใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรรัญชรา ในตำบลอุรุเวลา (ก็สมัยตั้งแต่เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ตลอดมาเป็นเวลากว่า 6 ปี มารผู้มีบาปได้ติดตามพระผู้มีพระภาคเจ้า คอยจ้องหาโอกาสเพื่อทำลายการบรรลุถึงฝั่งแห่งบารมีธรรม แต่ไม่ได้โอกาส) ครั้งนั้น นางตัณหา นางอรตี และนางราคา ซึ่งเป็นธิดามารได้เข้าไปหามารยังที่ที่มารพำนักอาศัยอยู่ ครั้นเข้าไปถึงแล้วได้กล่าวกะมารผู้มีบาปด้วยคาถา (ที่แปลความว่า) “คุณพ่อเจ้าขา ใครทำให้คุณพ่อต้องเสียใจ ชายผู้นั้นคือใครที่คุณพ่อเศร้าโศกถึงลูก ๆ จะผูกมัดเขาด้วยบ่วง คือราคะนำเขามาให้คุณพ่อ เหมือนช้างพังที่หมอช้างส่งไปล่อนำช้างพลายเถื่อนมาฉะนั้น เขาจักต้องตกอยู่ในอำนาจของคุณพ่อแน่” “เขาผู้นั้น คือเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งได้เป็นพระอรหันต์เป็นพระสุคตไปแล้ว ไม่มีใคร ๆ ในโลกจะเย้ายวนนำเขามาด้วยราคะได้เลย เพราะเขาได้ก้าวล่วงพ้นวัฏฏะที่เป็นไปในภูมิสามที่เป็นบ่วงมารไปแล้ว เพราะเหตุนั้น พ่อจึงต้องเศร้าเสียใจมาก” ต่อมา มารธิดา คือนางตัณหา นางอรตี และนางราคา ได้เข้าไปยังสถานที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ครั้นเข้าไปถึงแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า “พระสมณะเจ้าขา หม่อมฉันทั้งหลายขอบำเรอพระบาทของพระองค์เพคะ” ในทันทีที่เสียงนั้นปรากฏขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ส่งใจออกไปถึงเจ้าของเสียงนั้น แต่ทรงน้อมพระทัยลงไปที่นิพพานที่เป็นที่สูญสิ้นไปแห่ง อุปธิ 4 คือ กาม ขันธ์ กิเลส และอภิสังขาร เป็นอย่างยิ่ง เหมือนในตอนก่อน อ่านต่อ…
–. (2521). มารธีตุสูตร บันทึกประกอบและไหว้องค์พระพุทธรูปได้บุญไหม?. ม.ป.ท. : ม.ป.พ.