การรู้ภาษาธรรม เรียกว่า มีธรรมจักษุ แปลว่ามีดวงตาเห็นธรรม เรียกเป็นบุคคลว่า พระโสดาบัน แปลว่าผู้เข้ากระแสนิพาน เพราะสรุปแล้วพุทธศาสนาสอนตายเรื่องเกิดเท่านั้น โดยสอนว่าถ้าตายแล้วยังเกิดอีกก็ยังเวียนว่ายอยู่ ยังเป็นทุกข์ ถ้าตายแล้วไม่เกิดอีกก็พ้นเวียนว่าย พ้นทุกข์ (ถึงนิพพาน) ถ้ารู้ภาษาคน คือเกิดตาย ชีวิตก็ย่อมไม่มีใครปรารถนาจะถึงนิพพาน แต่ถ้ารู้ภาษาธรรม คือเกิดตายอุปาทานใคร ๆ ก็ปรารถนาจะถึงนิพพานเร็ว ๆ อุปาทาน คือ จิตมีอวิชชาย่อมรู้ผิด เปรียบจิตเป็นตา อวิชชาเป็นแว่นดำ เมื่อสวมแว่นดำย่อมเห็นผิด ท้องฟ้าโปร่งใสเห็นเป็นมืดฟ้ามัวฝนไป เมื่อจิตมีอวิชชาย่อมเห็นผิด ขันธ์ 5 เป็นอนัตตา กลับเห็นเป็นอัตตาไป อัตตาคือตัวเรา เมื่อมีตัวเราก็ต้องมีเราเกิด เราแก่ เราเจ็บ เราตาย จึงเกิดทุกข์แก่บุคคลที่เห็นผิด ดังที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า สังขิตเตน ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ขันธ์ 5 ที่มีอุปาทานเป็นทุกข์ วิชชาเปรียบแว่นขยาย เมื่อจิตมีวิชชาย่อมเห็นถูก คือเห็นขันธ์ 5 เป็นอนัตตา เห็นถูกตามความเป็นจริง ก็ย่อมหมดอุปาทาน หมดตัวเรา หมดทุกข์ เห็นเป็นธรรมชาติล้วน ๆ ไหลไป อ่านต่อ…
ไสว แก้วสม. (2521). ลัทธินอกพุทธศาสนา เปรียบเทียบกับพุทธศาสนา. กรุงเทพฯ : สุพจน์การพิมพ์.