• ความเป็นมาของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

    แนวความคิดในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เริ่มมีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม จวบจนถึงสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์เป็นนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งมหาวิทยาลัยภายใต้แนวทางที่จะสร้างสถาบันอุดมศึกษาที่ทำหน้าที่ผลิตบัณฑิตตามความต้องการกำลังคนของประเทศ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อมุ่งเน้นในสาขาเกษตรกรรมและวิศวกรรมคล้ายกับการจัดตั้ง Agriculture and Mechanical Collage ในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นในปี พ.ศ.2505-2509 รัฐบาลจึงได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นขึ้นเป็นแห่งแรกในภูมิภาค และแนวคิดเดียวกันนี้ จึงมีความพยายามจากบุคคลและสถาบันหลาย ๆ  ฝ่ายผลักดันให้เกิดมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งในปี พ.ศ.2528 ทบวงมหาวิทยาลัยได้เสนอความเห็นถึงสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ในขั้นแรกควรจัดตั้งเป็นวิทยาลัยอุบลราชธานี ในสังกัดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งสามารถกระทำได้โดยงบประมาณแผ่นดินไม่สูงเกินไป ให้สามารถผลิตบัณฑิตในสาขาที่ขาดแคลนเพื่อสนองความต้องการกำลังคนของประเทศ ได้แก่ สาขาแพทย์ เกษตร พยาบาล และวิศวกร หลังจากที่ได้มีการดำเนินงานของส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นลำดับ จวบจนได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ได้มีมติให้จัดตั้งวิทยาลัยอุบลราชธานีในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ใน พ.ศ.2529 และได้เริ่มเปิดรับนักศึกษาในปี พ.ศ.2531 สำหรับในสาขาวิชาเกษตรนั้น เมื่อเริ่มต้นดำเนินการมีฐานะเป็นภาควิชาเกษตรศาสตร์ได้รับนักศึกษาในปีแรก จำนวน 38 คน ต่อมาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และภาควิชาเกษตรศาสตร์ได้ยกฐานะเป็นคณะเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ.2533 ประกอบด้วยภาควิชาพืชไร่ ภาควิชาพืชสวนและภาควิชาสัตวศาสตร์ โดยรับนักศึกษาทั้งสิ้นปีละ 80 คน และจะเพิ่มเป็น 120 คน ในแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 8 (พ.ศ.2540-2544) คณะเกษตรศาสตร์ดำเนินงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบัณฑิตเกษตรระดับปริญญาตรีที่มีความรู้ความสามารถในเชิงเกษตรทั่วไปและมีความสามารถเฉพาะสาขา โดยเน้นทางด้านการวางแผนการผลิต กระบวนการผลิต และการเก็บรักษาผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนถึงวิธีการจัดการด้านการตลาดเพื่อการสนับสนุนการเกษตรของประเทศ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยทางการเกษตรเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เหมาะสมมาใช้ประโยชน์ในการเพิ่มผลผลิตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ในส่วนของการให้บริการทางวิชาการแก่สังคมได้มีนโยบายในการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การแสดงนิทรรศการ การจัดอบรมเผยแพร่เพื่อแนะนำ ส่งเสริม เพื่อให้เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องรู้จักใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการเพิ่มผลผลิตในรูปแบบต่าง ๆ ในปีการศึกษา 2541 มีนักศึกษารวมทั้งสิ้น 348 คน ในแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะที่ 8 (พ.ศ.2540-2544) คณะเกษตรศาสตร์มีแผนที่จะผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถและตอบสนองต่อความต้องการกำลังคนของประเทศและเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการของเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีเพิ่มอีก 2 สาขา คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร ในปี พ.ศ.2541 โดยจะเปิดรับนักศึกษาปีละ 20 คน และในปี พ.ศ.2543 จะเปิดสอนสาขาวิชาการประมง โดยรับนักศึกษาปีละ 40 คน รวมเป็นเปิดรับนักศึกาหลักสูตรปริญญาตรี 5 สาขา รวมทั้งสิ้น ปีละ 180 คน นอกจากนี้ยังมีแผนดำเนินการผลิตมหาบัณฑิตในหลักสูตรสาขาการจัดการฟาร์มแบบผสมผสาน ภายในแผนพัฒนาการศึกษาฯ ดังกล่าวในโอกาสต่อไป…

  • คำประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

    แหล่งข้อมูล : มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยอุบลราชานี ประจำปีการศึกษา 2549 เดือนธันวาคม 2550 ณ อาคารพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดทำโดย : คณะกรรมการพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  

  • สาส์นจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี : รศ.ดร.สมจิตต์ ยอดเศรณี พุทธศักราช 2539

    มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การกระจายโอกาสทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้แก่เยาวชนในเขตตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนในภูมิภาคเดียวกัน บัดนี้ เวลาได้ผ่านไปจนครบ 6 ปี มหาวิทยาลัยได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ระดับหนึ่ง ซึ่งจะเห็นได้จากสามารถผลิตบัณฑิตในสาขาเกษตรศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ออกไปรับใช้สังคมถึง 5 รุ่น จำนวนกว่า 300 คน ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในเรื่องของการประจายโอกาสการศึกษา มหาวิทยาลัยได้มีมาตรการพิเศษในการกำหนดจำนวนรับของนักเรียนที่มาจากโรงเรียนที่อยู่นอกเขตอำเภอเมืองจะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนรับทั้งหมด  ซึ่งในปัจจุบันจำนวนนักเรียนดังกล่าวสูงถึงร้อยละ 35 นอกจากนี้ยังได้ให้บริการทางวิชาการ ซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาต่อสังคมอีกมากมาย อาทิ การจัดอบรมทางวิชาการในระยะสั้น ให้แก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนทั่วไป การช่วยสอนในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์พื้นฐานให้แก่สถาบันการศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ที่อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ นักศึกษายังได้ดำเนินกิจกรรมที่มีประโยชน์ อาทิ การจัดกิจกรรมในวันเด็ก การนำความรู้ออกไปบริการให้แก่โรงเรียนที่อยู่ห่างไกลในรูปค่ายวิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ การเข้าร่วมในกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของจังหวัด เช่น การแห่เทียนเข้าพรรษา และสุดท้ายการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นับได้ว่าเป็นการกระจายรายได้ในจังหวัดอุบลราชธานี อีกประการหนึ่งในรูปของการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,800 ล้านบาท และจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำในปัจจุบันถึง 568 คน ด้วยศักยภาพของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีความพร้อมที่จะร่วมมีบทบาทในการสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมให้เจริญรุดหน้าต่อไป   อ้างอิง : กองแผนงาน สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.(2539). การดำเนินงานระหว่างปี 2533 – 2539, หน้า [ค].